วัดเขมาภิรตาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในอดีตที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่อยุธยาตอนต้น และมีความสำคัญในการเผยแพร่ศาสนาพุทธในภูมิภาคต่างๆ ในประเทศไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
ต้อนรับวันพระใหญ่อีกวัน… เลยขอพาไปเที่ยวชมสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ของวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง..”วัดเขมาภิรตาราม” ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตตำบลสวนใหญ่ ห่างจากตัวเมืองนนทบุรีมาทางด้านใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร ด้านหน้าของวัดติดริมฝั่งแม่น้ำ ส่วนด้านหลังติดถนนพิบูลสงคราม มีพื้นที่ประมาณ 26 ไร่เศษ เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นเรียกว่า “วัดเขมา”
ในสมัยรัชกาลที่ 2 สมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ พระบรมราชินี ทรงขอวัดนี้มาอยู่ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทรงปฏิสังขรณ์ใหม่เรียกว่า วัดเขมา ยังไม่มีสร้อยต่อท้าย จนต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งพระอาราม และพระราชทานสร้อยนามต่อท้ายว่า “วัดเขมาภิรตาราม”
ปีพ.ศ. 2525 พระราชวงศ์จักรีมีอายุ 200 ปี มีพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ คณะกรรมการวัด มีความเห็นว่าวัดนี้มีความสำคัญกับราชวงศ์จักรี พระบรมวงศานุวงศ์ทรงให้ความอุปถัมภ์บำรุงมาตลอด จึงมีมติสร้างศาลาอเนกประสงค์ชื่อศาลา 200 ปีกรุงรัตนโกสินทร์
ภายในวัดมีพระมหาเจดีย์ สูง 30 เมตร ตั้งอยู่ด้านหลังโบสถ์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระประธานเป็นพระพุทธรูปหล่อเก่าแก่ ศิลปะสมัยอยุธยาอัญเชิญมาจากพระราชวังจันทร์เกษม ภายในวัดมีพระตำหนักแดงและพระที่นั่งมณเฑียรตั้งอยู่ด้วย
ถ้ามีโอกาสลองหาเวลาไปเที่ยวชมกันนะคะ จะไปเวียนเทียนในช่วงค่ำก็ได้บรรยากาศดีๆ และได้ความสุขติดตัวกลับบ้านค่ะ อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองกรุงเทพเลย แถวสะพานพระราม 6 หรือ เทคโนฯพระนครเหนือ นี่เองค่ะ
ภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ในพระอุโบสถของวัด
พระประธานเป็นพระพุทธรูปหล่อเก่าแก่ ศิลปะสมัยอยุธยาอัญเชิญมาจากพระราชวังจันทร์เกษม
ภาพโดย : สุรชัย จิระเจริญวงศ์ษา