วันที่ เหตุการณ์มหาอุทกภัยของประเทศไทยกำลังจะผ่านพ้นไป ผู้คนชาว กทม. ส่วนใหญ่เริ่มกลับเข้าบ้านไปตรวจตราสำรวจความเสียหายเพื่อวางแผนซ่อมบ้าน หลังจากน้องน้ำจากไป นอกจากสารพัดขยะ สิ่งสกปรก สารพัดสัตว์ที่หนึน้ำมาอาศัยอยู่แทนเราแล้ว สิ่งที่ทุกคนต้องพบก็คือ พี่เฟอร์สุดหล่อสุดสวยที่เราทิ้งอยู่เฝ้าบ้านก็ถึงเวลาต้องจากเราไปพร้อมกับ การจากไปของน้องน้ำเช่นเดียวกัน
เฟอร์นิเจอร์ ที่เราใช้ตามบ้านทุกวันนี้ วัสดุสำหรับทำโครงสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในโรงงานผลิต เฟอร์นิเจอร์ทั่วโลกปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันไม่กี่ประเภท ซึ่งในกระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์นั้น ผู้ผลิตจะเอาวัสดุแผ่นประเภทต่างๆมาตัด ขึ้นรูป ให้ได้ตามขนาดและดีไซด์ที่ต้องการ หลังจากนั้นจึงใช้วัสดุ เช่นแผ่นลามิเนท แผ่นกระดาษพิมพ์ลายไม้เคลือบ แผ่นพีวีซี หรือสีพ่นเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่างๆ ตกแต่งผิวและขอบให้เรียบร้อยก่อนนำไปประกอบ จนผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าจริงๆแล้วเฟอร์นิเจอร์ในบ้านตัวเองนั้นทำ จากวัสดุประเภทใดกันบ้าง
แผ่นไม้เอ็มดีเอฟ (MDF) หรือที่มีชื่อเต็มว่า Medium Density Fiber Board วัสดุ ชนิดนี้ได้มาจากการนำเส้นใยไม้ (ในประเทศไทยมักจะเป็นเส้นใยไม้ยางพารา หรือไม้ยูคาลิปตัส) มาผสมกับกาวสังเคราะห์ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นกาวยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์ หลังจากนั้นจึงนำไปอัดให้แน่นด้วยแรงดันและความร้อน เพื่อขึ้นรูปให้เป็นแผ่นใหญ่ แล้วจึงนำมาขัดให้ผิวหน้าเรียบ และตัดให้ได้ขนาดมาตรฐาน ส่งไปขายตามโรงงานเฟอร์นิเจอร์เล็กใหญ่ต่างๆ
แผ่นไม้เอ็มดีเอฟ (MDF) หรือที่มีชื่อเต็มว่า Medium Density Fiber Board วัสดุ ชนิดนี้ได้มาจากการนำเส้นใยไม้ (ในประเทศไทยมักจะเป็นเส้นใยไม้ยางพารา หรือไม้ยูคาลิปตัส) มาผสมกับกาวสังเคราะห์ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นกาวยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์ หลังจากนั้นจึงนำไปอัดให้แน่นด้วยแรงดันและความร้อน เพื่อขึ้นรูปให้เป็นแผ่นใหญ่ แล้วจึงนำมาขัดให้ผิวหน้าเรียบ และตัดให้ได้ขนาดมาตรฐาน ส่งไปขายตามโรงงานเฟอร์นิเจอร์เล็กใหญ่ต่างๆ
ด้วยความ ที่วัสดุสองชนิดนี้ขึ้นรูปโดยใช้กาวและไม้เป็นส่วนประกอบ อย่างที่ทราบๆกันดีว่า กาวส่วนใหญ่มักจะไม่ทนน้ำ และไม้ทุกประเภทก็จะบวมพองเวลาโดนน้ำ .. มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ชนิดของไม้ ถ้าเป็นไม้เนื้อแข็งก็บวมน้อยหน่อย ถ้าเป็นไม้เนื้ออ่อน เช่นไม้ยางพารา ก็จะบวมมากหน่อย และเมื่อวัสดุสองตัวนี้มาอยู่ด้วยกัน ณ เวลาที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของน้องน้ำ กาวที่แช่อยู่ในน้ำก็เกิดการเสื่อมสภาพ เศษไม้หรือชิ้นไม้ก็จะบวมอืด เป็นผลให้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุสองประเภทนี้บวมน้ำ หากแบกน้ำหนักอยู่ก็จะเริ่มเอียง และท้ายที่สุดก็จะรับน้ำหนักไม่ได้และพังครืนลงมาในที่สุด!!!
นอกจากนั้น แล้วระหว่างที่เจ้าของปิดบ้านอพยบไปอยู่ที่อื่นและทิ้งพี่เฟอร์ของเราไว้ผจญ ชะตากรรมอย่างเดียวดาย บางส่วนของน้องน้ำก็แปลงร่างเป็นไอน้ำอับชื้น เอื้นหนุนให้น้องราสารพัดสายพันธ์ที่อาศัยอยู่ในบ้าน ปล่อยสปอร์ ขยายพันธ์ เป็นกองทัพใหญ่ ใช้จังหวะเข้าซ้ำโจมตีพี่เฟอร์ที่ทำจากแผ่นไม้สองชนิดนี้จนไม่เหลือสภาพความ งามอีกต่อไป
แผ่นไม้อัด ได้จากการนำไม้ซุงมาฝานให้เป็นแผ่นบางๆ (ประมาณ 1 มม.) แล้วเย็บต่อกันเป็นแผ่นใหญ่ (ขนาดเท่าไม้อัด) แล้วจึงอัดเรียงซ้อนๆกันด้วยกาวและความร้อนจนได้ความหนาตามต้องการ มีความหนาตั้งแต่ประมาณ 3 – 25 มม. ที่มาของชื่อเรียก “ไม้อัด” ก็เกิดจากกระบวนการผลิตด้วยการอัดไม้นี้
โดยทั่วไปช่างเฟอร์นิเจอร์จะทราบกันดีว่าไม้อัดนั้นมีความแข็งแรงและทนทานกว่าแผ่น MDF และ ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดหลายเท่าตัว แต่เนื่องด้วยไม้อัดที่มีคุณภาพดีจะมีราคาแพงกว่าแผ่นปาร์ติเกิลหลายเท่าตัว นัก อีกทั้งความสม่ำเสมอของเนื้อและผิวไม้อัด รวมถึงขนาดความหนาของไม้อัดก็ควบคุมได้ไม่ดีเหมือนแผ่น MDF และแผ่นปาร์ติเกิล เรียกว่าจะซื้อทีต้องลุ้นจนตัวโก่งว่าจะดีหรือไม่!! ดัง นั้นไม้อัดจึงมักไม่ได้รับเลือกเป็นวัตถุดิบในโรงงานเฟอร์นิเจอร์ยกเว้น พื้นที่ที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำเป็นหลัก
ด้วยราคา ที่สูงและคุณภาพที่ดีที่สุดในบรรดาแผ่นไม้สังเคราะห์ที่ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ทั้งหมด ไม้อัดจึงได้รับความนิยมนำไปใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ซึ่งมีราคาแพงกว่าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทั่วไปนิดหน่อย แต่เป็นที่รู้กันว่าทนทานกว่าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวหรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ บิวท์อินจากแบรนด์ดังที่ผลิตโดยใช้เทคนิค Knock-Build หลายเท่าตัวนัก!! (เทคนิคการทำเฟอร์นิเจอร์แบบ Knock-Build คือการผลิตชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์โดย Customized ให้ ได้ความกว้างยาวพอดีกับขนาดของห้องที่ต้องการด้วยแผ่นปาร์ติเกิ้ลบอร์ดในโรง งานผลิตเฟอร์นิเจอร์ แล้วจึงแพ็คส่งไปยังบ้านลูกค้าเป็นชิ้นๆเพื่อไปประกอบที่หน้างาน)
การขึ้นรูป เป็นเฟอร์นิเจอร์ด้วยไม้อัดจะยุ่งยากมากกว่าแผ่นไม้อื่นๆ ก่อนทำผิวให้สวยและประกอบร่างช่างจะต้องนำไม้อัดมาประกบแซนวิชโดยใช้ใส้กลาง เป็น “ไม้จ๊อยท์” เพื่อเพิ่มความหนา (เพราะไม้อัดหนาๆแพงมาก) แล้วจึงนำไปใช้งานเป็นโครงสร้างตู้ แต่กลายเป็นว่าการใช้ไม้จ๊อยท์แซนวิชกลางนี้กลับทำให้โครงสร้างตู้เฟอร์จาก ไม้อัดแข็งแรงขึ้น เพราะไม้จ๊อยท์ก็คือไม้จริงที่ผ่านการตัดต่อโครงสร้างไม้ใหม่ จึงมีความทนทานแข็งแรงและมีโอกาสบิดตัวเมื่อโดนน้ำน้อยมาก อย่างไรก็ตามเฟอร์นิเจอร์จากไม้อัดก็ยังมีปัญหา เพราะผิวของเฟอร์นิเจอร์ซึ่งก็คือไม้อัดนั้นมีความทนน้ำเพียงระดับนึงเท่า นั้น หากต้องจุ่มน้ำเป็นเวลานานๆ น้ำจะซึมผ่านผิวไม้เข้าไปถึงชั้นกาวและทำให้กาวเสือมสภาพจนผิวไม้จริงฝานบาง ที่ถูกอัดกันอยู่หลุดลอกออกมาเป็นแผ่นๆ อี่กทั้งตัวผิวไม้ก็อาจเกิดการขยายตัว พลิ้วตัว จนกระทั่งหมดความสวยงามไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
ข้อได้ เปรียบของการใช้เฟอร์นิเจอร์จากไม้อัดในยุคน้ำท่วมนี้ก็จะมีตรงที่ สามารถซ่อมผิวเฟอร์นิเจอร์ให้กลับมาสวยงามได้ดังเดิมได้ และที่สำคัญ เฟอร์นิเจอร์จะไม่มีทางพังครืนลงมาจนของในตู้ลอยเต็มบ้านเป็นขยะอย่างแน่นอน เพราะโครงสร้างไม้จ๊อยท์นั้นแข็งแรงและไม่สูญเสียสภาพเช่นแผ่นปาร์ติเกิล หรือแผ่นเอ็มดีเอฟเมื่อต้องจุ่มน้ำเป็นเวลานาน
ซ่อมบ้านใหม่หลังน้ำลดอย่างไรให้พี่เฟอร์เป็นหนุ่มใหญ่ อึด และอดทนอยู่กับน้องน้ำได้
ทางเลือกทางรอดของเฟอร์นิเจอร์ทนน้ำ ก็คือการเปลี่ยนวัสดุไปใช้พวกเฟอร์นิเจอรที่ทำจาก ABS หรือ พีวีซี ซึ่งเรามักเรียกๆกันว่าเฟอร์นิเจอร์พลาสติก หรือไม่ก็เปลี่ยนไปเป็นเฟอร์นิเจอร์จากสเตนเลสไปเลย!!
ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์พลาสติกก็คือ ทนน้ำแน่ๆ!! แต่ เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องการขึ้นรูปพลาสติก เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆเช่นตู้เก็บของพลาสติกจึงมักไม่มีดีไซด์สวยๆให้เลือก มากนัก อีกทั้งหากใช้ไปนานๆอาจเหลืองและกรอบได้หากเป็นวัสดุที่ทำจากพีวีซี ส่วนอีกทางเลือกนึงก็คือเฟอร์นิเจอร์สเตนเลสนั้นก็คือความแข็งแรงทนทาน และทนน้ำเช่นเดียวกัน แต่ด้วยเนื้อวัสดุที่เป็นสเตนเลส ดีไซด์จึงมักไม่เหมาะกับบ้านที่ต้องการความรู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิดธรรมชาติ ส่วนสนนราคาก็จะแพงกว่าเฟอร์นิเจอร์จากไม้หลายเท่าตัว เพราะตัวเนื้อวัสดุเดี๋ยวๆยังไม่ต้องคิดถึงค่าแปรรูปก็แพงอยู่แล้ว
อีกทางรอดทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจก็คือการเลือกใช้วัสดุไม้อัดสังเคราะห์ เช่น “ไม้อัดเฌอร่า” แม้อาจยังไม่เป็นที่รู้จักของช่างมากนักเนื่องจากเป็นวัสดุชนิดใหม่ แต่ข้อดีของการใช้วัสดุตัวนี้ก็คือ “ท่านจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่ทนน้ำ ทนปลวก ทนเชื้อรา และมีดีไซด์อบอุ่นสวยงามเช่นเฟอร์นิเจอร์จากไม้อื่นๆทั่วไป” การทำงานและการประกอบเฟอร์นิเจอร์ด้วยวัสดุชนิดนี้ก็ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถใช้เทคนิค เครื่องมือ และฝีมือของช่างเฟอร์นิเจอร์ทั่วๆไปทำได้
เจ้าของบ้านท่านใดที่คิดจะทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินทนน้ำ ก็สามารถแจ้งอินทีเรียดีไซด์เนอร์ หรือผู้รับเหมาบิวท์อิน ให้เลือกใช้วัสดุ “ไม้อัดเฌอร่า” ทด แทนไม้อัดทั่วไปเท่านั้นเอง ส่วนดีไซด์เฟอร์นิเจอร์ก็สามารถเลือกแบบได้ตามใจไร้ข้อจำกัดใดๆเพิ่มเติม เรามาลองดูตัวอย่างการประกอบเฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำดีไซด์เก๋ๆที่ทำจากไม้อัด เฌอร่ากัน
หลังน้อง น้ำจากไป บริบทหลายๆอย่างในประเทศไทยก็คงจะเปลี่ยนไป หลายคนเริ่มคิดถึงวีถีการสร้างบ้านแบบเรือนไทยพื้นถิ่น ยกพื้นมันให้สูงซะแล้วใช้เสาบ้านเป็นที่ผูกเปลยามหน้าร้อน ผูกเรือยามหน้าฝนซะเลย!! แต่ สำหรับวิถีชีวิตคนเมืองที่หากไม่ย้ายไปอยู่คอนโดก็คงยังต้องอยู่กับบ้านจัด สรรต่อไป ก่อนเลือกซื้อบ้านเราคงจะเห็นชาวเมืองศึกษาแนวคูคลองและทางน้ำมาเป็นอย่างดี ใช้ไอโฟนแอปวัดระดับความสูงพื้นดินก่อนตัดสินใจเลือกโลเคชั่น ส่วนเฟอร์นิเจอร์นั้น คนเมืองอย่างเราอาจต้องเตรียมพร้อมทำเฟอร์นิเจอร์ในทุกๆห้องให้เป็น Furniture for wet area … ไม่ใช่คิดจะเลือกให้ทนน้ำแค่เฉพาะห้องครัวและห้องน้ำอีกต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://lollypop-bkk.blogspot.com/2011/11/blog-post.htmlv