ถ้าพูดในแง่ธุรกิจ ข้อเสียหลักของที่นี่คือเรื่องการคุ้มทุน ทั้งการลงทุนที่สูงกว่าต้นทุนถึง 4-5 เท่า และการหมั่นบำรุงรักษาที่จะขาดไม่ได้ในทุกเดือน แต่ข้อดีของการทำงานเปรียบเหมือนงานอดิเรกชิ้นนี้ คือความรู้สึกทางใจ เป็นความภาคภูมิใจทีได้ช่วยอนุรักษ์สืบสานหลองข้าง หรือยุ้งข้าวที่กำลังจะสูญหายไปพร้อมกับการทำนาข้าวในภาคเหนือ
นี่คือคำตอบของคำถามที่ว่าเหตุใดรีสอร์ทท่ามกลางบรรยากาษเมืองโบราณเวียงพุกาม จึงได้นำยุ้งข้าวโบร่ำโบราณชองเชียงใหม่ร่วม 20 หลังมาประยุกต์ติดเครื่องอำนวยความสะดวกกลายเป็นยุ้งข้าวล้านนาซึ่งเปิดให้บริการเข้าพักแค่ 3-4 เดือนยามลมหนาวพักมาเยือนเพียงเท่านั้น โดยคุณอดุลย์ เหรัญญะ ผู้เป็นสถาปนิกและเจ้าของ ใช้เวลาร่วม 8 ปีในการตระเวนหาสะสมทั้งยุ้งข้าวและเรือนไม้โบราณจากทั่วล้านนา จากนั้นเข็มนาฬิกาเดินต่อเนื่องไปอีก 3 ปี ในการปรับยุ้งข้าว ที่เหลือใช้งานได้เพียงเค้าโครงให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของลูกหลาน รวมทั้งเปิดเป็นห้องพักที่โอมล้อมด้วยกลิ่นอายแห่งอดีต
ใน 1 ปี ยุ้งข้าวล้านนาเปิดให้บริการเพียง 1 ครั้งตามความไม่ถนัดในงานบริการ ส่วนอีกค่อนปีได้เปิดยุ้งข้าวแห่งนี้ต้อนรับ (แบบไม่ติดเงิน) คนที่มีใจรักในงานศิลปะ และผู้ที่ต้องการเข้ามาเรียนรู้ความชาญฉลาดของช่างไม้ล้านนาในการสร้างเรือนไทยโดยไร้เครื่องมืออันทันสมัยให้สามารถรองรับน้ำหนักเมล็ดข้าวเป็นตันๆได้ อีกทั้งยังเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ต่างจากยุ้งข้าวในจังหวัดภาคเหนืออื่นๆอย่างสิ้นเชิง ที่ตั้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โทร.053-816-538 หรือhttps://www.facebook.com/Lannaricebarn ขอบคุณข้อมูลจาก Lonely Planet Traveller