4 คอนเซ็ปต์การออกแบบที่จอดรถในเมืองสไตล์ Transit Oriented Development เน้นความสะดวกในการเดินทางของคนเมือง 13 -

4 คอนเซ็ปต์การออกแบบที่จอดรถในเมืองสไตล์ Transit Oriented Development เน้นความสะดวกในการเดินทางของคนเมือง

ปัญหาเรื่องที่จอดรถภายในตัวเมืองและย่านที่อยู่อาศัย เป็นอีกหนึ่งปัญหาของเมืองใหญ่ทั่วโลก และทางออกของปัญหาที่ดีที่สุด คือ การออกแบบพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะตามแนวทางของ TOD (Transit Oriented Development) ซึ่งช่วยให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถห้ามให้ประชาชน งดการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคลได้ทั้งหมด เพราะในบางกรณีระบบขนส่งสาธารณะ อาจไม่ตอบโจทย์ความสะดวกในการเดินทาง การบริหารจัดการพื้นที่จอดรถตามแนวทางของ TOD จึงจำเป็นต้องมีแนวทางการจัดสรรพื้นที่จอดรถอย่างเหมาะสม เพื่อคงไว้ในแนวทางการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของทุกคนในเมือง โดยใช้ 4 แนวทางในการบริหารพื้นที่จอดรถในเมืองดังนี้

1. สร้างช่องจอดรถริมถนนโดยเฉพาะ

การสร้างช่องจอดรถริมถนนโดยเฉพาะ ในเมืองในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นปานกลาง คือ การออกแบบที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลภายในเมือง ในขณะที่เมืองส่วนใหญ่อนุโลมให้ประชาชน จอดรถริมถนนได้ในช่วงเวลาไม่เร่งด่วน แต่ในการใช้งานจริงเราต่างพบว่า เมื่อเราเสียพื้นที่ถนนไป 1 ช่องทางให้กลายเป็นที่จอดรถ จะทำให้สภาพการจราจรกลายเป็นคอขวด ส่งผลให้ความเร็วในการจราจรชะลอตัวลง เกิดปัญหารถติดลุกลามไปยังถนนเส้นอื่น ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาเร่งด่วน

การสร้างช่องจอดริมถนนโดยเฉพาะจึงเป็นทางออกที่ดี ด้วยการแบ่งพื้นที่ทางเท้าที่มีความกว้างอย่างน้อย 6 เมตร เพื่อสร้างช่องจอดลึกเข้าจากพื้นที่ถนนอย่างน้อย 2 เมตรเป็นระยะทางยาว ประมาณ 15 – 20 เมตร โดยแบ่งเป็นช่วงๆ สลับกับพื้นที่ปลูกต้นไม้ จะช่วยเพิ่มพื้นที่จอดรถภายในเมืองโดยพื้นที่จอดรถ แยกต่างหากจากที่จอดรถจักรยาน เพื่อรักษาความสวยงามโดยรวม ไม่รบกวนเส้นทางจราจรหลัก ทางเดินเท้า และเส้นทางจักรยาน อย่างไรตามการสร้างช่องจอดรถริมถนนนี้ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีความหนาแน่นประชากรสูง ที่ควรใช้การสร้างอาคารจอดรถมากกว่า

2. พัฒนาอาคารจอดรถ

การพัฒนาตามแนวทาง TOD ไม่เพียงแต่พัฒนาพื้นที่ต่างๆ ให้มีความหนาแน่นอย่างเหมาะสมเท่านั้น แต่การพัฒนาพื้นที่จอดรถก็ต้องได้รับการจัดสรรเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นที่จอดรถใกล้สถานีขนส่งมวลชน และย่านการค้าที่มีความสำคัญจะถูกพัฒนาให้เป็นอาคารจอดรถ ให้เกิดความคุ้มค่าจากการใช้งานพื้นที่ดินสูงสุด และเป็นจุดจอดรถของประชาชนที่เดินทางต่อด้วยสถานีขนส่งสาธารณะ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราควรรู้อย่างหนึ่งในการพัฒนาพื้นที่จอดรถ คือ สร้างเท่าไรก็ไม่เพียงพอกับความต้องการ ดังนั้นการพัฒนาพื้นที่จอดรถ ควรสร้างแต่พอเหมาะตามพื้นที่และงบประมาณที่มี แล้วนำเม็ดเงินไปลงทุนกับการพัฒนาโครงข่ายทางเดินเท้า เส้นทางจักรยาน และระบบขนส่งมวลชนให้ทั่วถึงจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า

3. พัฒนาระบบจอดรถอัจฉริยะและการจัดเก็บค่าจอดรถ

ที่จอดรถสาธารณะมีขึ้นเพื่อความสะดวกของประชาชน และเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการบริการอย่างทั่วถึง การบริหารจัดการพื้นที่จอดด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันค้นหาที่จอดรถในเมือง เพื่อความสะดวกของประชาชนในการเดินทาง ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพื่อช่วยแก้ปัญหารถติด จะช่วยให้ประชาชนตัดสินใจได้ว่าควรจะใช้รถเดินทางเข้าตัวเมืองในเวลาใด และควรใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหรือไม่

รวมถึงการคิดค่าที่จอดรถ ก็เป็นหนึ่งในมาตรการที่ช่วยเพิ่มความยับยั้งชั่งใจ ประชาชนจะเดินทางด้วยรถยนต์เข้าตัวเมือง ให้ใช้รถยนต์เฉพาะเท่าที่จำเป็น โดยคิดค่าจอดรถตามขนาดรถที่จอด ช่วงเวลาที่เข้ามาจอด เพื่อเปิดโอกาส ให้กับคนอื่นได้ใช้งานที่จอดรถอย่างทั่วถึง

4. กำหนดข้อบังคับเรื่องที่จอดรถ

การออกข้อบังคับท้องถิ่น เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ ประเทศที่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถเช่นประเทศญี่ปุ่น จะมีข้อบังคับกฎหมายให้ทุกบ้านมีที่จอดรถของตัวเองอย่างน้อย 1 ช่อง รวมถึงคนที่กำลังซื้อรถใหม่ ก่อนซื้อต้องแสดงหลักฐานเรื่องที่จอดรถส่วนบุคคล หรือเอกสารแสดงที่จอดรถแบบสัญญาเช่า เป็นหลักฐานรับรองว่าซื้อรถมาแล้วจะไม่จอดรถริมถนนกีดขวางการจราจร

ในส่วนของพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นเช่นคอนโดมิเนียม จะมีการกำหนดพื้นที่จอดรถคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด และต้องทำขึ้นมาในรูปแบบอาคารจอดรถที่ไม่รบกวนทางเดินเท้า ทำให้ภาพการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งสาธารณะจะไม่มีพื้นที่จอดรถที่เบียดเบียนพื้นที่จราจร ทางเดินเท้า หรือเลนจักรยานเลยแม้แต่จุดเดียว ทุกอย่างจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดให้จอดรถได้เท่านั้น

ทั้งหมดนี้เราจะเห็นได้ว่าแนวทางของ TOD ไม่ได้มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่จอดรถ ในระดับที่สนับสนุนส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคล แต่มุ่งเน้นพัฒนาในแง่ของการใช้งานรถยนต์อย่างเหมาะสม ด้วยการสร้างพื้นที่จอดรถที่ไม่ใช้พื้นที่การจราจร ควบคุมการใช้งานพื้นที่จอดรถด้วยการเก็บค่าจอด รวมถึงการสร้างพื้นที่จอดรถขนาดใหญ่ในจุดเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะทำให้ทุกคนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะกันมากขึ้น และใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลจากบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด

เว็บเราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ท่านได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถเลือกอนุญาตคุกกี้เองได้ที่ ตั้งค่าคุกกี้

Privacy Preferences

เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของเรา อาจมีการจัดเก็บหรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของท่านในรูปแบบของคุกกี้ ข้อมูลนี้อาจเป็นข้อมูลเกี่ยวกับท่าน การตั้งค่าของท่าน อุปกรณ์ของท่าน ซึ่งจะถูกใช้เพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้ตามที่ท่านต้องการ ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่ได้ระบุตัวตนของท่านโดยตรง แต่ช่วยให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์แบบเฉพาะสำหรับท่านได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยท่านสามารถเลือกปฏิเสธไม่ยอมรับให้คุกกี้บางประเภททำงานได้ ซึ่งท่านสามารถคลิกที่หัวข้อแต่ละประเภท เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานเว็บไซต์และบริการที่เราเสนอให้แก่ท่านได้ ข้อมูลเพิ่มเติม

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จําเป็นสําหรับการทํางานของเว็บไซต์ (Strictly necessary cookies)
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย ส่วนนี้จะไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้ที่ช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)

    เราใช้ Cookies ประเภทนี้เพื่อช่วยจดจำอุปกรณ์หรือบราวเซอร์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถจัดทำเนื้อหาได้อย่างเหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อท่านมากยิ่งขึ้น

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เชิงสถิติ (Analytics Cookies)

    เราใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดย Google ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ของเรา โดยข้อมูลนี้ประกอบไปด้วย หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าชม ลิงค์ที่ท่านคลิก ระยะเวลาที่ท่านเข้าชมในแต่ละหน้า โดยเราใช้ข้อมูลนี้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ และเพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    เราใช้คุกกี้ประเภทนี้จดจำการตั้งค่าของท่านในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ หน้าเว็บที่ท่านได้เยี่ยมชม และลิงค์ที่ท่านเยี่ยมชม เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเข้าชมและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์และยังปรับปรุงเว็บไซต์ รวมทั้งเนื้อหาใดๆ ซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าเว็บให้ตรงกับความสนใจของท่านมากยิ่งขึ้น และทดสอบความมีประสิทธิภาพของโฆษณาเรา และนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุดเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้ เรายังอาจแชร์ข้อมูลนี้ให้กับบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
    Cookies Details

บันทึกการตั้งค่า