ไทยสมายล์ชี้แจงกลุ่มคำที่ห้ามพูดเล่นในสนามบินเพราะมีความผิดตามพรบ.โทษทั้งจำ-ปรับ และอาจทำให้เที่ยวบินล่าช้า 13 -

ไทยสมายล์ชี้แจงกลุ่มคำที่ห้ามพูดเล่นในสนามบินเพราะมีความผิดตามพรบ.โทษทั้งจำ-ปรับ และอาจทำให้เที่ยวบินล่าช้า

ไทยสมายล์ชี้แจงกลุ่มคำที่ห้ามพูดเล่นในสนามบินเพราะมีความผิดตามพรบ.
โทษทั้งจำ-ปรับ และอาจทำให้เที่ยวบินล่าช้า

แม้ว่าจะมีรายงานข่าวพบผู้โดยสารพูดคำว่า “ระเบิด” ขณะทำการเช็คอินหรืออยู่บนอากาศยานจนเป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าของเที่ยวบินอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังมีผู้โดยสารพูด “ระเบิด” อยู่อย่างต่อเนื่องซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดตามตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ

นางชาริตา ลีลายุทธ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ไทยสมายล์พบว่ายังมีผู้โดยสารจำนวนมากที่ยังไม่ทราบว่าการพูด “ระเบิด” บนอากาศยานนั้น เข้าข่ายมีความผิดตามตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศซึ่งมีบทกำหนดโทษกำกับไว้อย่างชัดเจน โดยเนื้อหาในมาตรา 22 ระบุไว้ว่า ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือ น่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทํา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ถ้าการกระทํานั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 – 600,000 บาท หรือทั้งจํา ทั้งปรับ ส่วนกรณีที่ผู้โดยสารพูด “ระเบิด” นอกอากาศยาน ไม่ว่าจะพูดบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน หรือขณะกำลังขึ้นเครื่อง ก็อาจถูกดำเนินคดี และมีโทษปรับ จากข้อหาเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น

“ไม่เพียงแต่การพูดด้วยความคะนองว่ามี ระเบิด เท่านั้น กลุ่มคำอื่นๆ ที่ไม่ควรนำมาพูดเล่นยังรวมถึง จี้บนเครื่องบิน และการก่อการร้าย เนื่องจากสนามบินเป็นสถานที่ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย หากเจ้าหน้าที่ของสายการบินพบเห็นหรือได้ยินข้อความซึ่งอาจจะมีผลต่อความปลอดภัยดังกล่าว ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีข้อยกเว้นซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฏความปลอดภัยและ พรบ.ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยผู้โดยสารที่พูด “ระเบิด” จะต้องนำตัวส่งไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจ รวมถึงหากโหลดกระเป๋าแล้วก็ต้องนำกระเป๋าสัมภาระออกมาตรวจค้นอย่างละเอียดอีก จึงเป็นการเสียเวลาของท่าน รวมถึงกระทบต่อผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ที่ต้องเสียเวลาล่าช้าไปด้วย โดยเฉพาะเที่ยวบินนั้นที่ต้องเกิดความล่าช้าซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมาก”

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องระมัดระวังอีกประการคือสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ เงินสด ไอแพด กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เครื่องประดับ ให้นำใส่กระเป๋าและนำติดตัวขึ้นเครื่องไม่ควรโหลดลงใต้ท้องเครื่อง รวมถึงแบตเตอรี่สำรองทุกชนิด(Power Bank) ไม่อนุญาตให้โหลดลงใต้ท้องเครื่อง แต่อนุญาตให้นำติดตัวขึ้นเครื่องได้ โดยจะต้องเป็นแบตเตอรี่สำรองความจุน้อยกว่า 20,000 mAh จำนวนไม่เกิน 20 ชิ้น และ/หรือ แบตเตอรี่สำรองความจุ ระหว่าง 20,000 – 32,000 mAh (ไม่เกิน 2 ชิ้น) ส่วนแบตเตอรี่สำรองความจุมากกว่า 32,000 mAh ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง จึงขอให้ทุกท่านระมัดระวังสิ่งเหล่านี้เป็นพิเศษเพื่อให้การเดินทางของไปถึงจุดหมายอย่างราบรื่นและปลอดภัย” นางชาริตา กล่าวสรุป

เว็บเราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ท่านได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถเลือกอนุญาตคุกกี้เองได้ที่ ตั้งค่าคุกกี้

Privacy Preferences

เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของเรา อาจมีการจัดเก็บหรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของท่านในรูปแบบของคุกกี้ ข้อมูลนี้อาจเป็นข้อมูลเกี่ยวกับท่าน การตั้งค่าของท่าน อุปกรณ์ของท่าน ซึ่งจะถูกใช้เพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้ตามที่ท่านต้องการ ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่ได้ระบุตัวตนของท่านโดยตรง แต่ช่วยให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์แบบเฉพาะสำหรับท่านได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยท่านสามารถเลือกปฏิเสธไม่ยอมรับให้คุกกี้บางประเภททำงานได้ ซึ่งท่านสามารถคลิกที่หัวข้อแต่ละประเภท เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานเว็บไซต์และบริการที่เราเสนอให้แก่ท่านได้ ข้อมูลเพิ่มเติม

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จําเป็นสําหรับการทํางานของเว็บไซต์ (Strictly necessary cookies)
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย ส่วนนี้จะไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้ที่ช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)

    เราใช้ Cookies ประเภทนี้เพื่อช่วยจดจำอุปกรณ์หรือบราวเซอร์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถจัดทำเนื้อหาได้อย่างเหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อท่านมากยิ่งขึ้น

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เชิงสถิติ (Analytics Cookies)

    เราใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดย Google ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ของเรา โดยข้อมูลนี้ประกอบไปด้วย หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าชม ลิงค์ที่ท่านคลิก ระยะเวลาที่ท่านเข้าชมในแต่ละหน้า โดยเราใช้ข้อมูลนี้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ และเพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    เราใช้คุกกี้ประเภทนี้จดจำการตั้งค่าของท่านในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ หน้าเว็บที่ท่านได้เยี่ยมชม และลิงค์ที่ท่านเยี่ยมชม เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเข้าชมและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์และยังปรับปรุงเว็บไซต์ รวมทั้งเนื้อหาใดๆ ซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าเว็บให้ตรงกับความสนใจของท่านมากยิ่งขึ้น และทดสอบความมีประสิทธิภาพของโฆษณาเรา และนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุดเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้ เรายังอาจแชร์ข้อมูลนี้ให้กับบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
    Cookies Details

บันทึกการตั้งค่า