หากจะย้อนกล่าวถึงวันแรกที่เราได้พบ “ครอบครัววังพรม” เราได้รับการติดต่อจาก “คุณแต้ว-คุณเฟอร์” เจ้าของเจนเนอร์เรชั่นที่สองของแบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรวังพรม สมุนไพรไทยจากอำเภอ “สามพราน” จังหวัดนครปฐม ซึ่งในจุดประสงค์แรกนั้นต้องการ “พื้นที่ทำงาน” ที่ใช้รองรับ “ผู้ค้าชาวต่างชาติ” และการขยายตัวของวังพรมใน modern trade ทั้งในไทยและต่างประเทศในนาม “วังพรมเทรดดิ้ง”
Site แรกที่เราได้ไปเยี่ยมเยียนคือ “ห้องแถว” จำนวนสองห้อง ซึ่งตั้งใจไว้ว่าจะ “รีโนเวท” ตึกแถวนี้มาเป็นออฟฟิศ
2 -3 ชม. ที่เราได้พูดคุยกัน ผมเห็นถึง “ความเป็นไปได้มากมาย” ของสมุนไพรสัญชาติไทยแท้ ที่เกิดจากท้องถิ่นสามพราน นครปฐม เรื่องราวของ “คุณแม่ติ๋ว-หมอเฉลิม วังพรม” ที่สู้ชีวิตบุกเบิกสูตรเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จนวันนี้กลายเป็น “ยาสามัญประจำบ้าน” ของใครหลายคน
จาก “ห้องแถว” 2 ห้องนั้น เราได้พูดคุยกันกับเจ้าของรุ่นใหม่ที่มีความคิดกว้างไกล ที่มองเห็นศักยภาพของสินค้าไทยที่จะสามารถพาไปได้ไกลทั่วโลก กับแผนการณ์ต่างๆที่จะสร้างความเป็นไปได้ให้กับ “ธุรกิจวังพรม” โดยการใช้เครื่องมือความคิดสร้างสรรค์เข้าไปผนวกกับ “ขุมทรัพย์ทางปัญญา” ที่ทางวังพรมมีอยู่ ก่อให้เกิดโครงการต่างๆขึ้นมากมาย อย่าง”ออฟฟิศสถาน
สำนักงานวังพรม” แห่งนี้ที่ย้ายจาก “พื้นที่แรกที่เป็นตึกแถว” มารีโนเวทบางส่วนของพื้นที่ “โรงงานเก่า”ของตนเองที่ปล่อยว่างไว้ เพื่อลดต้นทุนและได้พื้นที่ที่มากกว่า ไปจนถึง “นิเวศวังพรม” Communityใหม่ของอำเภอสามพรานที่นำเอาสมุนไพรไทยไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ การบริการ จนกลายเป็น destination ของสามพราน ซึ่งอยู่ในแผนการณ์การดำเนินการ
งานอีเวนท์หรืองานแฟร์ ขนาดต่างๆ ตลอดทั้งปีที่เดินทาง road show จัดไปทั่วประเทศและต่างประเทศ ในการทำหน้าที่ “ฑูตวังพรม”เพื่อสื่อสารถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทย และอีกหลายโครงการที่ไม่สามารถบอกในบทความนี้ได้หมด
สำนักงานวังพรมแห่งนี้เป็นโครงการรีโนเวทบางส่วนจากโรงงานเก่าที่ถูกปล่อยไว้เป็นเวลานาน มีขนาดเนื้อที่ไม่ใหญ่มาก ประมาณ 250 ตารางเมตร
เรานำพาทุกคนกลับไปสู่ “บ้านวังพรม” ในยุคสมัย 20 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นยุคสมัยที่สมุนไพรวังพรมถือกำเนิดขึ้น การออกแบบที่พยายามนำเอาของ “บ้านๆ” “ท้องถิ่นนิยมสามพราน” มาแปรรูปใหม่และนำมาใช้กับบริบทพื้นที่สำนักงาน
ซึ่งเราขอเรียกแนวคิดนี้ว่า “โมเดิร์นสามพราน”
เฟอนิเจอร์หลายชิ้นถูกออกแบบจากแรงบัลดาลใจในยุคสมัยนั้นและสั่งผลิตเฉพาะขึ้นมาเพื่อโครงการนี้ อย่างเก้าอี้ในห้องประชุมที่มีรูปแบบคล้ายเก้าอี้บ้านพักตากอากาศของคุณปู่ในสมัยก่อน เป็นต้น
การจัดผังต่างๆ พยายามจัดการให้สามารถมองเห็นถึงกันในขณะเดียวกันก็สามารถกั้นพื้นที่ให้เป็นจัดส่วนอเนกประสงค์ของผู้ใช้งานในอนาคต
เราพยายามหลีกเลี่ยงภาษางานออกแบบออฟฟิศที่ตอนนี้เป็นที่นิยมอย่าง ออฟฟิศเทคโนโลยีหรือสตาร์ทอัพต่างๆที่พยายามทำออฟฟิศให้เป็นสวนสนุก หากแต่พยายามทำให้สำนักงานเป็นเหมือน “บ้าน” มากที่สุด
โดยเฉพาะรูปแบบนิทรรศการที่ใช้นำเสนอตัวสินค้าให้กับผู้มาเยือน เราพยายามศึกษา “สมุนไพรไทย” ต่างๆที่วังพรมใช้ และนำมาแปรรูปใหม่เป็น “ภาพวาดลายวอลล์เปเปอร์” ที่ถูกเขียนขึ้นมาเป็นพิเศษ ที่ถูกสั่งผลิต พิมพ์ลายวอลล์เปเปอร์ขึ้นมาเฉพาะสำหรับโครงการนี้ กระจายหน้าที่ “แทรกซึม” เข้าไปในพื้นที่ ทำหน้าที่ให้ความรู้แขกที่มาเยือนแบบเนียนๆไม่ยัดเยียด รวมถึงยังคงเป็น “องค์ประกอบหนึ่งของสำนักงาน”
เมื่อเนื้อที่ไม่มากมายนัก การออกแบบชิ้นส่วนลอยตัวอย่างโต๊ะสำนักงานหรือเฟอนิเจอร์ในสำนักงานจะพยายามทำให้ “ล่องหน” หรือ “ลอยได้” ผ่านการใช้”กระจก”ที่ถูกนำมาใช้เป็นขาเฟอนิเจอร์ลอยตัวต่างๆ เพื่อให้พื้นที่ดูเบาลอยและดูกว้างมากขึ้นจากเทคนิคลักษณะนี้ รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆที่นำมาตกแต่ง ก็พยายามใช้ของ “ท้องถิ่นไทย” งานฝีมือหัตกรรม งานฝีมือ (Craft) แบบไทยๆ ให้ได้มากที่สุด
และด้วยความคิดของผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจในรายละเอียดคุณภาพชีวิตของพนักงานและสตาฟที่จะใช้ชีวิต ทำงานอยู่ในออฟฟิศนี้ ทำให้การออกแบบถูกนำเอาภาษาของ บ้าน โรงแรม คาเฟ่ รวมถึงสปา มาใช้ ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนแบบไทยๆ รูป รส กลิ่น เสียง ของสมุนไพรไปจนถึงห้องน้ำก็ยังถูกออกแบบมาให้ “เป็นที่พักผ่อน” มากกว่า “ที่ทำงาน”
สำนักงานแห่งนี้ถือเป็นโครงการ”นำร่อง” ก่อนที่จะมีอีกหลายๆโครงการตามติดออกมาเป็นหลายโครงการที่พยายามเอานำ “ความคิดสร้างสรรค์ มาแปรรูป “ท้องถิ่นไทย” กับ “ธุรกิจ” เพื่อพลักดันให้กับสินค้าสมุนไพรไทยให้ไปยืนอยู่ในเวทีโลก มากกว่าการออกแบบ มากกว่าเพียงแค่ธุรกิจ แต่สิ่งที่ทำให้เราประทับใจและรับทำงานทั้งหมดนึ้คือ. “ความภาคภูมิใจของท้องถิ่นสามพราน” เกิดที่นี่ โตที่นี่ และการนำพาเอาความภาคภูมิใจนี้ไป “ปักหมุด” ให้กับคนทั่วโลก ของดีสามพราน สมุนไพรหัวใจไทยแท้ โมเดิร์นสามพราน สมุนไพรวังพรมครับ
ผลงานและบทความจาก Apostrophys