โคมไฟอัจฉริยะใหม่ของ Dyson สามารถติดตามแสงธรรมชาติ และใช้งานได้กับหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวัน มอบแสงที่มีคุณภาพตามกาลเวลาของแต่ละวัน
จากความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน Jake Dyson จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph ที่สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์
โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย และมอบที่มีความใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติมากที่สุด นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามแสงธรรมชาติตามเวลาท้องถิ่นได้ไม่ว่าเราจะใช้งานอยู่ที่ใด หรือใช้กับกิจกรรมแบบใดก็จะได้แสงที่มีคุณภาพอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการใช้งานของแสงด้วยตนเองได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Dyson Link โดยโคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph นี้สามารถปรับเปลี่ยนแสงได้อย่างชาญชลาดขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ เช่น อายุ อารมณ์ และแสงธรรมชาติตามเวลาท้องถิ่น อีกทั้งยังสามารถปรับหมุนได้ถึง 360 องศา ทำให้ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งนี้ เทคโนโลยี Heat Pipe ยังช่วยทำให้โคมไฟคงคุณภาพของแสงได้นานกว่าทศวรรษอีกด้วย
“เราต้องการที่จะนำความท้าทายที่พบเจอกับแสงประดิษฐ์ที่เราใช้ปัจจุบันมาพัฒนาค้นหาโซลูชั่นเพื่อที่จะได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph เป็นโคมไฟที่สามารถติดตามแสงธรรมชาติตามเวลาท้องถิ่นได้ และสามารถใช้งานได้กับหลากหลายกิจกรรม ช่วยมอบแสงที่มีคุณภาพตามกาลเวลาให้กับผู้ใช้งาน” Jake Dyson, หัวหน้าวิศวกรกล่าว
หลังจากที่โคมไฟ Dyson Lightcycle ได้เปิดตัวไปในปี 2019 ก็มีการพัฒนา Dyson Lightcycle Morph ขึ้นต่อมา และมีการพัฒนาเพิ่มคุณสมบัติในการเลียนแบบแสงธรรมชาติที่สามารถใช้งานได้ในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราทำ ด้วยการใช้อัลกอรึทึมในการติดตามแสง โดยมีหลอด LED โทนส้ม 3 ดวง และ โทนฟ้า 3 ดวง โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph สามารถปรับอุณหภูมิสีและความสว่างอย่างต่อเนื่องโดยให้สัมพันธ์กับแสงธรรมชาติตามท้องถิ่น
โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph
สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ
- แสงที่ให้แสงสว่างทางอ้อม (Indirect light) หัวโคมไฟสามารถปรับหมุนได้ 360 องศา สามารถใช้ทำการส่องกระทบไปยังพื้นผนัง พื้น และเพดานได้
- แสงสำหรับการใช้งานโดยเฉพาะ (Task light) เน้นพื้นที่เฉพาะจุด เช่น ใช้ในการทำงาน ทำกิจกรรมงานอดิเรก การแต่งหน้า และงานที่ซับซ้อน ซึ่งโคมไฟได้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดอาการปวดตา และเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นอีกด้วย
- แสงสว่างแบบส่องเน้น (Feature light) ใช้ส่องเน้นที่วัตถุใดวัตถุหนึ่งเพื่อให้เกิดความโดดเด่น สวยงาม เช่น เหมาะสำหรับส่องงานศิลปะที่ต้องการเน้นให้เห็นสีสันที่ชัดเจน ใช้ในการตกแต่งต่าง ๆ ซึ่งตัวปรับแสงสามจุด (3-Point Revolve motion) สามารถทำให้เราประตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ
- แสงบรรยากาศล้อมรอบ (Ambient light) แสงนี้ใช้เพื่อความผ่อนคลายสบายตา มีโทนเป็นสีส้ม เหมาะสำหรับตอนที่ต้องการพักผ่อน
โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานแบบอเนกประสงค์ มอบแสงสว่างให้ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติมากที่สุด เริ่มต้นจากแสงแบบพระอาทิตย์ขึ้นไปจนถึงแสงสว่างยามเย็นที่กลายเป็นโทนสีฟ้า
ในการใช้ไฟรูปแบบแสงบรรยากาศล้อมรอบ (Ambient light) จะทำงานด้วยการนำหลอดไฟมาประกบด้วยกันกับตัวฐานโคมไฟซึ่งมีรูกว่า 16,740 รูโดยรอบ ถูกออกแบบโดยใช้ส่วนประกอบอะลูมิเนียม – โพลีคาร์บอเนตที่แตกต่าง
หัวออปติคอลอัจฉริยะที่ติดตั้งบนโคมไฟสามารถหมุนได้ 360 องศา ตัวก้านจะมีความลึกเพียง 0.7 มม. ขึ้นรูปด้วยอะลูมิเนียมอัดขึ้นเพื่อให้มีความทนทานต่อแรงกระแทก รูรับแสงขนาดเล็กสามารถทำให้เกิดการไล่ระดับสีที่นุ่มนวลให้กับเอฟเฟกต์แสง แสงภายในแกนอะลูมิเนียมจะส่องลงไปตามท่อความยาวของตัวฐานโคมไฟได้อย่างไร้ที่ติ นอกจากนี้ภายในแกนจะไม่สามารถมองเห็นสายเคเบิลที่เป็นตัวจ่ายไฟ ทำให้แสงไฟดูสวยงามแบบ 360 องศา
เมื่อมีการใช้งานในรูบแบบแสงบรรยากาศล้อมรอบ แสงโดยรอบของฐานกานโคมไฟจะสว่างขึ้นเป็นโทนสีส้มที่ดูสบายตา นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าสำหรับการพักผ่อนยามเย็นโดยลดโทนแสงสีฟ้าได้อีกด้วย ฟิลเตอร์สีส้มที่ให้แสงแบบอบอุ่นจะสร้างระดับแสงโดยลดอุณหภูมิสีลงจาก 2,700K เป็น 1,800K ซึ่งใกล้เคียงกับสีของแสงเทียน
แสงที่คงคุณภาพยาวนาน
“ในขณะที่เราพยายามประดิษฐ์แสงไฟให้ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติแล้วนั้น คุณภาพที่คงทนของแสงก็เป็นสิ่งสำคัญ และเราก็สามารถหาทางที่จะทำให้แสงไฟสามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน” Jake Dyson กล่าว
เทคโนโลยีท่อระบายความร้อนสามารถระบายความร้อนจากหลอดไฟ LED ให้เย็นลงตลอดเวลา ทำให้แสงสามารถคงคุณภาพได้นานกว่า 60 ปี
แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ แสงไฟกะพริบ และแสงจ้า อาจก่อให้เกิดอาการปวดตาและทำให้สายตาเมื่อยล้าได้ โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดอาการปวดตาและเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น หัวออปติคอลอัจฉริยะสามารถกระจายแสงที่มีคุณภาพสูงและทรงพลัง ในขณะเดียวกันค่าแสงไฟกระพริบจะอยู่ในระดับต่ำ (<1% ที่ความสว่างเต็มที่) นอกจากนี้ การใช้งานโหมดแสงสว่างที่มีความใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติมากทีสุด (Precision mode) นั้น เราจะได้รับแสงสว่างที่ใกล้เคียงในระดับ 90 ขึ้นไป (จาก 100) ซึ่งในโหมดนี้จะเหมาะสำหรับการใช้แต่งหน้า การวาดภาพระบายสีรูปภาพ ทำงานฝีมือจะมีความละเอียดสูง เป็นต้น การใช้งานในโหมดนี้จะช่วยมอบความแม่นยำของแสงและช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการมองเห็น โดยการปล่อยแสงที่มีความเข้มสูงพร้อมกับอุณหภูมิสีที่เย็นกว่า (4,600 เคลวิน)
เชื่อมต่อเพื่อการใช้งานส่วนตัว
ผู้ใช้งานที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปอาจต้องการแสงสว่างมากกว่าผู้ใช้งานที่มีอายุ 20 ปีถึง 4 เท่า Dyson Lightcycle Morph มีโหมดที่สามารถปรับการใช้งานให้เข้ากับอายุของผู้ใช้งานได้ โดยผู้ใช้งานจะได้รับแสงสว่างตามอายุที่ตั้งค่าไว้บนแอพพลิเคชั่น Dyson Link และยังสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ในโหมดอื่น ๆ อาทิ โหมดเรียนหนังสือ ผ่อนคลาย ความละเอียด เพิ่มพลังงาน ตื่นนอน หลับ และโหมดออกไปข้างนอก นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมแบบแมนนวลพร้อมระบบลดแสงแบบสัมผัสทำให้สามารถปรับอุณหภูมิสีได้ด้วยตัวเอง ผู้ใช้สามารถตั้งค่าโปรแกรมล่วงหน้า รวมทั้งสร้างชื่อสำหรับการตั้งค่าโหมดแสงต่าง ๆ ได้ถึง 20 แบบเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน
ราคาและการวางจำหน่าย
โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 8 พฤษจิกายน 2563 ในราคา 18,900 บาทสำหรับแบบตั้งโต๊ะ และราคา 27,900 บาท สำหรับรุ่นตั้งพื้น และสำหรับรุ่นตั้งโต๊ะจะมีวางจำหน่ายแค่สีดำเท่านั้น ส่วนรุ่นตั้งพื้นจะมีวางจำหน่ายแค่สีขาว-เงินเท่านั้น
หากผู้ใดสนใจที่จะทดลองใช้โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle Morph สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ที่ Dyson Demo สาขา เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ไอคอนสยาม และ สยามพารากอน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามได้ที่เว็บไซต์ dyson.co.th.
Tips: Dyson Lightcycle Morph
- Dyson Lightcycle Morph มาพร้อมกับพอร์ต USB-C สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ เหมาะที่จะวางไว้บนโต๊ะหรือข้างเตียง
- จากการใช้ข้อมูลที่เก็บบันทึกจากการวัดสภาพแสงมากกว่าล้านครั้งบนชั้นบรรยากาศของโลกตามช่วงเวลาต่าง ๆ ในแต่ละวัน หน่วยไมโครคอนโทรลเลอร์ 32 บิตใน Dyson Lightcycle Morph นั้นสามารถประมวลข้อมูลเวลากลางวันได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะทำการสื่อสารกับออปติคัลไดรเวอร์ และหลอดไฟ LED โทนสีส้ม 3 ดวงและโทนสีฟ้า 3 ดวงจะทำงานควบคู่กันเพื่อจำลองอุณหภูมิสีเวลากลางวันเป็นต้นไปตั้งแต่ 2,700 ถึง 6,500 เคลวิน
- สำหรับโหมดเรียนหนังสือ แนะนำให้ใช้ไฟในระดับอ่านหนังสือ
- โหมดผ่อนคลายจะมอบแสงสว่างที่มีบรรยากาศอบอุ่นและมีความเข้มต่ำ แต่ยังคงสว่างพอที่จะสามารถอ่านหนังสือได้ แสงไฟจะถูกปรับตามข้อมูลอายุของผู้ใช้ที่ป้อนใส่ในแอป Dyson
- โหมดเพิ่มพลังงาน ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับกิจกรรมที่ต้องการแสงสว่างมากเป็นพิเศษภายในช่วงเวลาสั้น ๆ สามารถตั้งค่าความสว่างของแสงสูงสุดได้เป็นเวลา 20 นาที
- ในโหมดตื่นนอน ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเวลาที่ต้องการให้ไฟทำงานได้ โดยแสงจะค่อย ๆ สว่างขึ้น เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศแสงตอนตื่นนอนที่แท้จริง
- โหมดหลับ ถูกสร้างสำหรับใช้งานตอนกลางคืน มันจะปิดการใช้งานของเซ็นเซอร์ตัวรับการเคลื่อนไหว ดังนั้น แสงไฟจะไม่เปิดขึ้นหากผู้ใช้เคลื่อนไหวในขณะที่หลับอยู่ นอกจากนี้ มันจะลดความสว่างและอุณหภูมิสีให้อยู่ในระดับที่ต่ำสุด กรณีที่ผู้ใช้ตั้งโคมไฟไว้ที่ข้างเตียง หากแสงไฟเปิดขึ้น การรบกวนของแสงในห้องมืดก็จะลดลง
- โหมดออกไปข้างนอก แสงไฟจะถูกตั้งให้ปิดและเปิดตามเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อให้ดูเหมือนว่ามีคนอยู่ในบ้าน ใช้เป็นไฟเพื่อความปลอดภัยได้
- เซ็นเซอร์อินฟราเรดตรวจจับความเคลื่อนไหวจะเปิดไฟขึ้นหากผู้ใช้อยู่ใกล้โคมไฟ และจะปิดเมื่อผู้ใช้เคลื่อนไหวออกห่างนานกว่าสองนาที สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้
- เซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้างในตัวโคมไฟ Dyson Lightcycle Morph หมายถึง หากแสงสว่างเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน ระดับแสงเอาต์พุตจะถูกปรับโดยอัตโนมัติเพื่อให้พื้นที่ของคุณมีความสว่างที่คงที่
- ตัวสะท้อนแสงแบบเหลี่ยมในหัวออปติคอลถูกแบ่งโดยชั้นของฟิล์มกระจายแสง PMMA โดยผสมแสง LED โทนเย็นและโทนอุ่นให้เท่า ๆ กันเพื่อช่วยสร้างแหล่งกำเนิดแสงเดียวทีสร้างคุณภาพของเงาที่สูง แผ่นสะท้อนแสงด้านล่างได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องดวงตาจากแสงจ้า และปรับโฟกัสของแสงเพื่อให้ได้แสงที่สม่ำเสมอ
เกี่ยวกับ Dyson
- เริ่มต้นจากบ้านหลังเล็กๆ ใน เมืองบาธ แห่งสหราชอาณาจักร บริษัท Dyson ได้เติบโตมาเรื่อยๆตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี ค.ศ. 1993 จนปัจจุบัน Dyson ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกด้านเทคโนโลยีที่รวบรวมด้านวิศวกรรม วิจัย พัฒนา และการทดลองทั่วโลกอีกด้วยอาทิเช่น สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ปัจจุบัน Dyson ได้จดสิทธิบัตรไปแล้วมากกว่า 10,551 ฉบับและยังมีอีกมากมายที่ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่ทั่วโลก
- Dyson มีทีมงานมากถึง 14,000 คน ทั่วโลกและในจำนวนนั้นมี วิศวะหัวกะทิและสุดยอดนักวิทยาสาสตร์ถึง 6,000 คน จากเครือข่ายที่รวมสุดยอดบุคลกรไว้ด้วยกันนี้เพื่อที่จะสร้างเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาทั่วโลก เพื่อสนับสนุนแผนงาน ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ เซลแบตเตอรี่ (solid-state ) รถยนต์พลังงานไฟฟ้าความเร็วสูงระบบการมองเห็นเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่ง และระบบปัญญาประดิษฐ์ โดยทีมพัฒนาหุ่นยนต์ Dyson เป็นทีมที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร แลป Dyson Robotics Lab ในมหาวิทยลัย Imperial College London จัดตั้งโปรแกรมวิจัยระยะยาว
- Dyson เผยผลประกอบการปี 2018 เติบโตขึ้น 28% จำนวน 4.4 พันล้านปอนด์ และผลกำไรเพิ่มขึ้น 33% จำนวน 1.1 พันล้านปอนด์ เพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยี และความต้องการของผลิตภัณฑ์พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก