ข่าวคุณสุรชัย สมบัติเจริญ ตัดสินใจ ทำ Face Off เพื่อลดอายุลง 20-30ปี ทำเอาเราต้องหันมาสนใจว่า “face off” นี่มันคืออะไร แล้วไม่มีวิธีอื่นที่เสี่ยงน้อยกว่านี้แล้วหรือ ยุคนี้แล้วที่มีการค้นพบเทคโนโลยีล้ำๆมากมาย สารพัดเครื่องมือ ที่ใช้พลังงานจากคลื่น เสียง แสง และวิทยุ ขนาดพิสูจน์เรื่อง หลุมดำได้ และล่าสุดที่ฮือฮากับการตรวจจับ Gravity Wave ได้..โดยใช้เครื่องมือที่ตรวจจับด้วยแสงเลเซอร์ ที่ชื่อว่า LIGO ( Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory) ทำไมกับการทำให้ดูดีดูเด็กลงยังต้องเสี่ยงกับการลงมีดผ่าตัด และพักฟื้นเป็นเดือนๆ มาดูกันก่อนว่า Face Off คืออะไร
Face Off คืออะไร
เราได้มีโอกาสไปขอความรู้เรื่องนี้จาก พญ. นันทภัทร สุภาพรรณชาติ American Board Certified Dermatologist & laser Surgery ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเป็นอาจารย์สอนด้านศัลยศาสตร์ผิวพรรณที่ศูนย์เลเซอร์ผิวหนังโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
คุณหมออธิบายให้ฟังว่า “Face Off ในทางการแพทย์ มี 2 ความหมาย อันแรกคือ การที่ผิวหน้าหลุดออกไป และอันที่ 2 คือ เป็นเรื่องของการผ่าตัด หมายถึงการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแปลงใบหน้าโดยสิ้นเชิง เช่น คนไข้เกิดมาคางกาง หน้าแบน ฟันเหยิน จมูกบี้ ต้องการทำให้จมูกโด่งแหลม มีโหนกแก้ม หน้าเรียวเล็ก ได้รูป หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง เราเรียกว่า Face Off เป็นการผ่าตัดที่แก้ปัญหาหลายๆอย่าง ต้องทำเยอะ และทำแล้วก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แบบพลิกโฉม เปลี่ยนหน้าไปเลย เกิดลักษณะใหม่ของใบหน้า เป็นโครงหน้าใหม่ที่ดูดี ดูน่าสนใจขึ้น โดยปกติเรามักไม่ได้ใช้คำนี้กับการผ่าตัดที่ทำให้ใบหน้าหายหย่อนยานไปเท่านั้น”
ยุคนี้แล้ว อยากดูดี ยังต้องเสี่ยงขนาดนั้นอีกหรือ
ฟังคุณหมอให้ความรู้แล้วค่อยสบายใจหน่อย คุณหมอบอกว่า “ในปัจจุบันการ ทำ Face Off สามารถที่จะทำได้ง่ายๆโดยการฉีด Vector Lift ซึ่งเป็นการฉีดผสมผสาน ฟิลเลอร์ และโบท๊อกซ์ เข้าไปเพื่อจัดลักษณะกระดูกใหม่ จัดทิศทางของกล้ามเนื้อใหม่ ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้า ในลักษณะเดียวกับ Face Off ได้ทันทีเช่นกัน ข้อดีคือ มีความเป็นธรรมชาติ ทำเสร็จแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ กว่าการผ่าตัด ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องหลบหน้าผู้คน อยู่กับบ้านเป็นเดือน ทำเสร็จแล้วก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม การทำ face off โดยวิธี Vector Lift นี้จะไม่สามารถแก้ปัญหาในกรณีที่คนไข้มีหนังเกินมากๆ ก็จะต้องมีการผ่าตัดหนังคนไข้ออกก่อน แล้วค่อยฉีด Vector Lift เพื่อปรับเปลี่ยนใบหน้า สำหรับ ข้อเสีย การทำFace Off ด้วยวิธี Vector Lift อาจจะต้องมาทำบ่อยกว่า ประมาณปีละครั้ง หรือ 2ปีครั้ง ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อย่างไรก็ดี ในกรณีการทำ face off ด้วยการผ่าตัด ผลก็ไม่ได้อยู่ถาวรเช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ ก็จะต้องมาผ่าตัดใหม่ ไม่มีอะไรอยู่เหมือนเดิมตลอดไป ”
คุณหมอยังให้ความรู้ เกี่ยวกับการกำจัดเหนียงคออีกว่า ถ้ามีไขมันสะสมบริเวณคางและคอมากๆ ปัจจุบันนี้ ก็สามารถกำจัดไขมัน ได้แบบเดียวกับการดูดไขมัน โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นการกำจัดไขมันด้วยความเย็นระดับจุดเยือกแข็งที่ค้นพบโดย คณะแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทำให้หน้าเรียวเล็ก กำจัด คาง 2ชั้น หรือมากกว่า ให้หายไปได้ง่ายๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ทำครั้ง – 2 ครั้ง ก็กำจัดคาง 2ชั้นที่แสนจะน่าเกลียด และทำให้ดูแก่ ให้จากไปอย่างถาวร
หลังจากฟังเทคโนโลยีอันเป็นความหวังของคนไม่อยากดูแก่จนเคลิ้ม ก็เลยให้สงสัยกับสารที่เรียกว่า “ฟิลเลอร์” ว่ามันคืออะไร เลยไปหาความรู้เพิ่มเติม และได้ความรู้มาใหม่ว่า ในปัจจุบัน HA ฟิลเลอร์ มีการพัฒนาก้าวหน้าไปมาก อันเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงสามารถใช้ HA ฟิลเลอร์ ปรับเปลี่ยนรูปหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แถมยังมีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ทั้งไทย และสหรัฐอเมริกา
เทคโนโลยี HA ฟิลเลอร์ ในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ สารเติมเต็ม แบบไม่ถาวร ไฮยาลูรอนิค (HA) ฟิลเลอร์ ได้รับ U.S. FDA Approved ก็ทำให้ มีการพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก มีคุณสมบัติ ที่หลากหลายเพื่อการใช้งานในจุดที่แตกต่างกัน มีความหนา และคงตัว สามารถใช้เพื่อการปรับแต่งได้โดยอิสระ ตามที่ต้องการ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับฝีมือและความสามารถของผู้ใช้ด้วย ทำให้ฟิลเลอร์ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่สารเติมเต็มเพื่อสร้างวอลุ่มบนใบหน้า แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้า และคงผลในระยะยาว ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากตัวคนไข้เอง
พัฒนาการนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการใช้ฟิลเลอร์ ทำให้จากการแก้ปัญหาใบหน้าเพียง 2 มิติ คือการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ไปสู่การปรับเปลี่ยนรูปหน้า ในแบบ 3 มิติ สามารถ ปรับเปลี่ยนรูปหน้า จัดแต่งโหนกแก้ม จมูก หน้าผาก รูปหน้า ดึงส่วนที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้น แก้ปัญหา การหย่อนคล้อย และเสื่อมสภาพของคอลลาเจน และอีลาสติน ให้ผิวตึงกระชับ อย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการศัลยกรรมผิวหนังเป็นอย่างมาก
สิ่งที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยี จึงมาอยู่ที่ craftsmanship หรือ ฝีมือ และความสามารถ ในการสร้างสรรค์ เฉพาะบุคคล
ข้อมูลจาก The Science of Dermal Fillers
** หมายเหตุ และ ข้อพึงระวัง เกี่ยวกับฟิลเลอร์
คำว่าฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม เป็นชื่อเรียกรวมๆของการฉีดสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบธรรมชาติ เพื่อความสวยงามเป็นส่วนใหญ่ ใช้ในการเสริมปรับรูปหน้าในตำแหน่งที่ต้องการให้นูนเด่น เช่น จมูก ขมับ ,หน้าผาก ,คาง, ริมฝีปาก, ร่องลึกใต้ตา, ร่องน้ำตา, ร่องแก้ม,มุมปาก หรือโหนกแก้ม หรือใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอย รวมไปถึงเพิ่มสัดส่วนต่างๆ เช่น สะโพก หน้าอก สารเติมเต็ม หรือ ฟิลเลอร์ที่มีการนำมาใช้ฉีด แบ่งเป็นแบบถาวรและ แบบไม่ถาวร ก่อนการตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องทำความรู้จักกับชนิดของฟิลเลอร์ และเลือกให้ถูกต้อง รวมถึงการเลือกแพทย์ผู้ทำการฉีดก็เหมือนกัน เพราะถือว่าเป็นงานฝีมือ แพทย์ที่ฉีดควรมีความเข้าใจโครงสร้างของผิวและใบหน้าอย่างลึกซึ้ง จะดูดีไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบนี้ด้วย
ฟิลเลอร์แบบถาวร ก็เช่น ซิลิโคน เม็ดพลาสติก หรือพวกน้ำมันพาราฟิน ซึ่งไม่แนะนำให้ฉีด หมายเหตุตัวโตๆว่าห้ามฉีดเด็ดขาด มีอันตราย มากๆ ผลข้างเคียงเกิดแน่นอน เพียงแต่ว่าจะปรากฏผลช้าหรือเร็วเท่านั้น อาจเกิดอาการแพ้แบบเฉียบพลัน หรือไม่เช่นนั้นในระยะยาวก็จะเกิดเป็นก้อน หรือไหล และอักเสบได้ ถือว่าผิดกฎหมาย อ.ย.ไม่รับรอง
ส่วนแบบไม่ถาวร แบ่งเป็น ฟิลเลอร์จากสารสังเคราะห์ที่เรียกว่า “ไฮยาลูโรนิค แอซิด” (hyaluronic acid, HA) เรียกสั้น ๆ ว่า“ไฮย่า” มีความปลอดภัยสูง มีการรับรองจาก อย. เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นเลียนแบบ Hyaluronic Acid หรือ HA มีอยู่ในร่างกายคนเรา และฟิลเลอร์ จากเซลล์ไขมันของตัวเอง ซึ่งมีความปลอดภัยสูงเช่นกัน
แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยาก และเสียงเงินมากมาย ก็เลือก Face Off แบบนี้ก็ได้ ไม่กี่ตังค์..???
