วาฬเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หากด้วยความที่เป็นสัตว์ทะเล ทำให้พบเห็นได้ไม่ง่ายนัก จึงแลดูลึกลับ อวดโฉมให้เห็นพอวับแวมตอนโผล่ขึ้นมาหายใจ ล่าเหยื่อ และพุ่งตัวขึ้นเหนือน้ำในบางครั้ง แต่แค่นั้นก็สร้างความตื่นเต้น ประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นนักหนาแล้ว
วาฬบรูด้า สัตว์ประจำถิ่นอ่าวไทย
ประเทศไทยมีวาฬบรูด้า (Bryde’s Whale) แพร่กระจายทั้งในทะเลฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย โดยฝั่งอ่าวไทยนั้นพบตลอดทั้งปีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทยรูปตัวกอ ตรงพื้นที่ชายทะเลจังหวัดเพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร จึงถือได้ว่าวาฬบรูด้าเป็นสัตว์ประจำถิ่นในอ่าวไทย และได้มีการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 16 ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
อ่าวไทยตัวกอ แหล่งอาหารอันสมบูรณ์
ช่วงฤดูฝน เป็นช่วงที่พบวาฬบรูด้าในอ่าวไทยตัวกอได้บ่อยที่สุด เพราะสภาพที่ตั้งของตัวอ่าวเป็นที่รับน้ำจืดจากแม่น้ำหลายสาย ทั้งแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำเพชรบุรี ทะเลแถบบริเวณนี้จึงเป็นทะเลตม เต็มไปด้วยตะกอน และสารอาหารต่าง ๆ ที่ถูกพัดมาจากต้นน้ำในช่วงฤดูฝน ทำให้มีปลาเล็กปลาน้อย ทั้งฝูงปลากะตัก ปลาทู เข้ามากินแพงก์ตอนอย่างชุกชุม ดึงดูดให้วาฬบรูด้าว่ายเข้ามาใกล้พื้นที่ชายฝั่งเพื่อกินปลาเล็กปลาน้อยเป็นอาหาร แต่….วงจรไม่จบแค่ตรงนั้น เจ้าวาฬยักษ์ใหญ่เมื่ออวดโฉมบ่อยครั้งเข้า กลายเป็นคำร่ำลือ และสุดท้ายดึงดูดผู้คนออกสู่ท้องทะเลเพื่อยลโฉมพวกมันอย่างใกล้ชิด
วาฬบรูด้าเมื่อล่าเหยื่อ จะแหวกว่ายตัวและปล่อยฟองอากาศออกมาเพื่อต้อนให้ฝูงปลามาอยู่รวมกัน ก่อนจะพุ่งส่วนหัวขึ้นเหนือผิวน้ำ พร้อมอ้าขากรรไกรล่างออกให้กว้างที่สุด เพื่อกินฝูงปลาให้ได้มากที่สุด จากนั้นจึงจมตัวลง ปล่อยให้น้ำทะเลไหลออกจากซี่กรอง แล้วกลืนเหยื่อลงไป
ฝูงปลาที่ถูกต้อนมารวมกัน และการพุ่งหัวอ้าปากกว้างขึ้นฮุบเหยื่อ ทำให้ฝูงนกนางนวล พากันมาบินวนเวียนอยู่ด้านบนเพื่อรอคอยจังหวะลงมาโฉบขอแบ่งปลาจากวาฬบรูด้าไปกินบ้าง เมื่อเห็นฝูงนกนางนวลบินเป็นกลุ่มวนเวียนตรงไหน จึงกลายเป็นจุดสังเกตอย่างดีให้เรือแล่นมุ่งตรงเข้าไปใกล้ เพราะคาดเดาได้ว่าต้องมีวาฬหากินอยู่บริเวณนั้นแน่
วาฬบรูด้าแม่ลูกหากินด้วยกันเสมอ
วาฬบรูด้าที่เป็นแม่ลูกจะว่ายน้ำล่าเหยื่อเคียงข้างด้วยกันเสมอ เมื่อเสยหัวพุ่งขึ้นเหนือผิวน้ำ และอ้าปากออกกว้าง ขากรรไกรที่กางออกข้างกันสร้างเส้นสายเรขาคณิตที่มองเผิน ๆ คล้ายดอกบัวโผล่ขึ้นมากลางมหาสมุทร โดยเฉพาะวาฬตัวลูกเมื่อพุ่งขึ้นเนือผิวน้ำจะโน้มตัวทิ้งเข้าหาตัวแม่เสมอ…. ภาพแม่ลูกที่โผล่เคียงข้างกันเรียกเสียงร้องอุทานตื่นเต้นจากคณะดูวาฬไม่ขาดสาย โดยเฉพาะคนที่ร้องนำขึ้นมาก่อนก็คนขับเรือกับผู้ช่วยน่ะแหละ
“สุดยอด โอ้โห…. ดูอ้าปากสิ… สุดยอด”
น้ำเสียงตื่นเต้น จนนักท่องเที่ยวตัวจริงรู้สึกขัน
เจ้าวาฬพวกนี้เสน่ห์แรงเหลือเกิน ขนาดชาวประมงที่เห็นพวกมันบ่อยจนคุ้นชิน… ยังมิวายตื่นเต้น ไม่ต้องนับพวกเราที่เป็นนักท่องเที่ยว…. ยืนดูกันตาไม่กระพริบเลยทีเดียว
ฝอยน้ำกลางอากาศ เกิดจากการหายใจเหนือผิวน้ำ
นอกจากการพุ่งหัวขึ้นเพื่อล่าเหยื่อแล้ว วาฬบูรด้าจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำอีกทีก็ตอนหายใจ โดยจะโผล่ส่วนหัวที่มีช่องหายใจขึ้นเหนือผิวน้ำ แล้วหายใจออกอย่างแรง ทำให้เกิดฝอยละอองน้ำพุ่งขึ้นสูงถึง 3-4 เมตร ก่อนจะหายใจเข้า ทิ้งตัวดำลงไปใต้ผิวน้ำ เมื่อมองจากที่ไกล ๆ จึงเห็นแต่ฝอยละอองน้ำที่พุ่งขึ้นมาเหนือผิวน้ำ กับเงาตะคุ่ม ๆ ของลำตัว
เรือที่พาพวกเราออกไปดูวาฬ จอดลำนิ่งให้พวกเราดูวาฬแม่ลูกฮุบเหยืออยู่นาน กระทั่งฝูงนกนางนวลที่บินวนเวียนเหนือท้องทะเลสลายตัวนั่นแหละ เป็นสัญญาณให้รู้ว่า หมดเวลาการโชว์ตัวแล้ว เรือดูวาฬแต่ละลำจึงค่อย ๆ หันเหหัวเรือแล่นกลับเข้าหาฝั่ง
อ้างอิงจากหนังสือ “ปลาวาฬบรูด้าในประเทศไทย” จัดพิมพ์โดย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง