สิ่งก่อสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัยแรกของมนุษย์
บ้านนับเป็นสิ่งก่อสร้างแรกของมนุษย์ หลังจากเรียนรู้ที่จะอยู่อาศัยกับที่เป็นหลักเป็นแหล่ง เพื่อทำการเพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์
บ้านในยุคแรกของมนุษย์เป็นเพียงกระท่อมที่สร้างขึ้นจากวัสดุง่าย ๆ หาได้จากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาทิ ดิน ฟาง ไม้ หิน
ที่เมืองฮาร์ราน (Harran) เมืองเก่าแก่ในพระคัมภีร์ไบเบิล เมืองอาศัยของ อับราฮัม (Abraham) บุคคลที่พระเจ้าเลือกสรรที่จะสื่อสารด้วยตามความเชื่อของศาสนายิว คริสต์ และอิสลาม ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศตุรกี ที่นั่นมีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเมืองเล็กๆ เก่าแก่แห่งนี้ นั่นคือ Beehive House…..บ้านก้อนดินตากแห้งหลังคาทรงโดม อันเป็นบ้านแบบดั้งเดิมในยุคแรก ๆ ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย
บ้าน Beehive ออกแบบอย่างชาญฉลาดเข้ากับสภาพแวดล้อม
สภาพภูมิประเทศของเมืองฮาร์รานนั้นแห้งแล้ง ปราศจากต้นไม้ วัตถุดิบที่นำมาใช้สร้างบ้านจึงเป็นก้อนดินโคลนตากแห้งเ นำมาเรียงก่อเป็นบ้านหลังคาทรงโดมสูงประมาณ 5 เมตร ก่อนที่จะฉาบด้วยฟางและดินโคลนอีกชั้นหนึ่ง
วัสดุที่นำมาใช้ และรูปทรงของตัวบ้านช่วยให้อากาศภายในบ้านดินแห่งฮาร์รานนั้นมีอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน ไม่ว่าสภาพอากาศด้านนอกจะร้อนจัด หรือเย็นจัด นั่นเป็นเพราะก้อนดินตากแห้งที่ฉาบด้วยฟางและดินโคลน ทำหน้าที่เป็นฉนวนเก็บความเย็นไว้ภายใน ประสมกับหน้าต่าง และบานประตูที่มีขนาดเล็กแคบทำให้แดดส่องเข้ามาภายในตัวบ้านได้น้อย ขณะเดียวกันหลังคาที่เป็นยอดโดมสูง มีช่องระบายอากาศเล็ก ๆ ด้านบน ทำให้อากาศที่ร้อนลอยตัวสูงขึ้นไปด้านบน และถูกก็บกักไว้บริเวณนั้น เมื่อถึงตอนกลางคืน อากาศเย็นจัด จะค่อย ๆ คลายความร้อนที่สะสมไว้คืนกลับมายังตัวบ้านด้านล่าง ทำให้อุ่นสบาย นับเป็นระบบหมุนเวียนอากาศที่ยอดเยี่ยม
ไม่แค่นั้นหลังคาที่เป็นทรงโดมลาดชัน ทำให้เมื่อฝนตกหนัก น้ำฝนจะไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทำให้หลังคาแห้งได้ไว ก้อนดินโคลนไม่ได้รับความเสียหาย นับเป็นการออกแบบที่ชาญฉลาด เหมาะกับสภาพภูมิอากาศแวดล้อม
ภายในเมืองฮาร์รานนั้น มีบ้าน Beehive กระจัดกระจายให้เห็นเป็นระยะ แต่ทางการของตุรกีได้สงวนกลุ่มบ้านดินที่อยู่ในสภาพดี จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมบ้าน Beehive ได้อย่างใกล้ชิด
ขณะที่ยืนอยู่ภายนอก มองบ้าน Beehives เผิน ๆ จินตนาการถึงความคับแคบ และไม่น่าอยู่ ทว่าเมื่อได้เข้าไปด้านในจริง ๆ กลับพบว่ากว้างขวางอยู่สบายทีเดียว เพราะบ้านดินแต่ละหลังเชื่อมต่อเนื่องกันด้วยประตูโค้ง เมื่อจัดวางข้าวของเครื่องใช้พื้นเมืองลงไป ดูอบอุ่นน่าอยู่อาศัย โดยเฉพาะเมื่อแหงนหน้ามองไปบนหลังคา จะเห็นก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ที่นำมาวางเรียงต่อกันเป็นช่องวงกลม กลายป็นหลังคาทรงโดมที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
บ้านดิน Beehives ที่หลงเหลืออยู่เหล่านี้แม้จะมีอายุประมาณ 150 – 200 ปี เท่านั้น แต่ได้รับการยืนยันทางโบราณคดีแล้วว่า ไม่แตกต่างจากบ้านดั้งเดิมที่เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์แถบนี้ เมื่อ 1900 ปีก่อนคริสต์ศักราช