มีหลักฐานว่า “ร่ม” เริ่มใช้กันเป็นครั้งแรกเมื่อหลายพันปีมาแล้วในยุคอียิปต์ เรื่อยมาจนถึงกรีก โรมัน จีน และอินเดีย และเกือบจะทุกๆชาติและเผ่าพันธุ์รู้จักที่จะใช้ร่มบังแดดและกันฝนในรูปแบบต่างๆกัน
Credit: Thank Photo From: http://www.stockvault.net/blog/photography/interesting-scenes-with-umbrellas-in-photography/
ร่มในรูปแบบปัจจุบันที่เรารู้จักกัน ปรากฏขึ้นราวศตวรรษที่ 18 ในตอนนั้นมีรูปร่างเทอะทะและมีน้ำหนักมาก เพราะโครงทำด้วยเหล็กและกระดูกปลาวาฬ ส่วนที่เป็นผ้าใบยังต้องลงน้ำมันไว้กันน้ำอีกด้วย
จนประมาณปี ค.ศ. 1852 ชาวอังกฤษชื่อ Samuel Fox ได้คิดค้นร่มเปิด-ปิด ได้ และนับเป็นต้นกำเนิดของร่มในสมัยปัจจุบัน ซึ่งมีรูปร่างกะทัดรัด น้ำหนักเบาขึ้น แต่คงความแข็งแรงเช่นเดิม โดยเราเรียกร่มแบบนี้ว่า Fox Frame ซึ่งถืิอว่าเป็นดีไซน์ที่คลาสิค และไม่ว่าสมัยต่อๆมาจะมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุที่ใช้ทำด้ามจับ ทำโครง หรือทำผ้าร่ม เป็นต้น http://www.foxumbrellas.com/index.php/company-history/samuel-fox
ต่อมา ร่มสีดำกลายเป็นสัญลักษณ์ของสุภาพบุรุษอังกฤษ และเวิร์กช็อปหลายแห่งในอังกฤษที่สืบทอดศิลปะการทำร่มมากว่าหลายร้อยปี อย่าง Swaine Adeney Brigg หรือ James Smith & Son ส่วนใหญ่ด้ามของมันจะทำด้วยหวายมาเลเซีย มี่เรียกกันว่า หลายมัลละกา หรือไม้บีช ดัดโค้ง งอด้วยไอน้ำ แต่แบบหรูหราหายากอาจจะมีด้ามที่ทำจากนอแรด หรืองาช้าง ในปี 1947 Christain Dior ก็เคยออกแบบคันร่มให้เข้ากับสไตล์ New Look สำหรับสุภาพสตรีโดยเฉพาะ
ร่มแบรนด์ Swaine Adeney Brigg
ร่มแบรนด์ James Smith & Son
ร่มสีเบจของมูจิ MUJI คันนี้ เป็นร่มขนาดเล็กที่เหมาะกับผู้หญิง ใช้โครงร่มแบบ Fox Frame มีน้ำหนักเบาไม่ถึง 1 กิโลกรัม ตัวผ้าร่มเป็นโพลีอีสเตอร์ และด้ามทำจากไม้บีชจริงๆ ขอบคุณข้อมูลจาก IMAGE MAGAZINE