ถึงยุค Smart Home การแต่งบ้านให้ทำงานอัตโนมัติก็มีอุปกรณ์ในตลาดหลายชิ้นที่ทำงานได้ แต่จะลงทุนซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ดูแลบ้านทั้งที Reliability & Quality ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ Samsung SmartThings นับเป็นผู้นำในด้านอุปกรณ์ Smart Home คุณภาพสูงมาตลอด จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
ในวันนี้ เราจะพาไปรีวิวและรู้จักกับ 5 อุปกรณ์ที่อยู่ในหมวด event trigger ที่จะเป็นประสาทสัมผัสของระบบรับรู้สถานการณ์ก่อนการตัดสินใจทำอะไรต่อไป
Event Trigger หรือ
ประสาทสัมผัสของ Smart Home
ตามรูปด้านบนอุปกรณ์เซ็ตนี้ 4 ตัวประเภท Sensor จะทำหน้าที่ในช่องที่ 1 คือ รับรู้การเกิดขึ้นของเหตุการณ์ ก่อนที่จะสั่งงานไปที่ Smart Home Hub ทำหน้าที่ในช่องที่ 2 นี่เป็นลำดับการทำงานของอุปกรณ์ Smart Home ทั้งหมดให้เข้าใจง่าย
ชิ้นที่ 1 Samsung Motion Sensor
รับรู้การเคลื่อนไหวและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง
อุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของทุกสิ่งในระยะใกล้ เช่น ในห้อง ในอาคาร หรือภายนอกอาคารในระยะไม่ไกลนัก ตัว Sensor สามารถตรวจจับได้เป็นแนวกว้าง เมื่อทำงานร่วมกับแท่นที่สามารถปรับองศาได้ง่ายจึงสามารถหมุนก้มเงย บน ล่าง ซ้าย ขวา ได้อย่างอิสระ ช่วยให้ปรับขอบเขตการตรวจจับได้อย่างง่ายดาย
Detect:
- การเคลื่อนไหว Motion / No Motion
- อุณหภูมิ (Thermometer)
ไอเดียการนำไปใช้: หลังจากตรวจพบการเคลื่อนไหว หรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง สามารถออกแบบได้หลากหลายมาก เช่น
- เปิดไฟเมื่อมีการเคลื่อนไหว
- แจ้ง Notification เข้ามือถือเมื่อพบการเคลื่อนไหว
- จับตาดูอุณหภูมิได้แบบเรียลไทม์
- สั่งเปิดแอร์หรือพัดลมเมื่อห้องอุณหภูมิสูงขึ้น
- ไม่ให้ Smart Home ปิดบ้านเมื่อยังมีคนอยู่
- ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นออกมาทำงานหลังจากไม่มีการเคลื่อนไหว 1 ชั่วโมง
ข้อดีเสริม: มีด้านหลังเป็นแม่เหล็ก สามารถไปติดบนอุปกรณ์ที่เป็นเหล็กอะไรก็ได้ แต่ที่ดีกว่านั้นคือ มีแท่นยึดสวยงามหมุนได้ สามารถจะปรับองศาได้
ราคา: 1,390 บาท
ชิ้นที่ 2 Samsung Multipurpose Sensor
รับรู้การเปิด-ปิด ประตูหน้าต่าง (แยกจากกันของอุปกรณ์ 2 ชิ้น)
เรียกให้เข้าใจง่ายคือ sensor ที่จะรับรู้การเปิดปิดสำหรับประตู-หน้าต่าง แต่ที่ Samsung ตั้งชื่อว่า Multipurpose เพราะสามารถประยุกต์ใช้งานได้มากกว่านั้นมากน่ะสิ แถมยังสามารถตรวจจับการสะเทือนและอุณหภูมิได้ด้วย
Detect:
- การติดกันและห่างกันของสถานะ Open / Close ของอุปกรณ์ 2 ชิ้น
- อุณหภูมิ (Thermometer)
- การสั่นสะเทือน (Accelerometer)
- แสดงผล 3-axis sensor
ไอเดียการนำไปใช้:
- ติดประตูห้องตัวเดียว รับรู้ได้ทั้งการเปิดปิด (Noti ไปที่มือถือ) และเฝ้าอุณภูมิห้อง เพื่อเปิดแอร์หรือพัดลมไปด้วยกัน
- เหมาะกับการใช้กับหน้าต่าง เพราะประตูอาจมีอุปกรณ์ smart home ตัวอื่นที่ทำงานในการล็อกด้วย แต่หน้าต่างต้องการอุปกรณ์ที่เล็กและเบา ติดไว้เพื่อให้รับรู้ในการเปิดปิดเท่านั้น
- เฝ้าระวังการเคาะประตู แงะประตู หน้าต่าง (Sensor สั่นสะเทือน)
- ติดใต้หลังคาเมทัลชีทรับรู้ว่าฝนตก (Sensor สั่นสะเทือน)
- ปั้มน้ำกำลังทำงานตอนเราไปต่างจังหวัด (Sensor สั่นสะเทือน)
- ติดไว้กับที่เก็บสายจูง เพื่อให้รู้ว่ามีคนพาสุนัขไปเดิน (Sensor ประตูหน้าต่าง)
- ให้ปิดแอร์หลังจากที่ประตูปิดไปแล้ว
ข้อดีเสริม: ส่วนมาก Door & Windows Sensor จะไม่สามารถตรวจจับอุณหภูมิและการสั่นสะเทือนได้ แต่ตัวนี้ทำได้ ทำให้ซื้อมาแล้วตรวจได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน คุ้มค่ามาก
ราคา: 1,090 บาท
ชิ้นที่ 3 Samsung Water Leak Sensor
เซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำรั่ว
เซ็นเซอร์สำหรับน้ำตัวนี้ก็ออกแบบดี เพราะสามารถรับรู้น้ำได้ทั้ง 2 ด้าน ทำให้รู้เร็วไม่ต้องรอให้น้ำท่วมอุปกรณ์ทั้งชิ้น และยังมอนิเตอร์อุณหภูมิได้ด้วย
Detect:
- น้ำ Dry / Wet ได้ทั้ง 2 ด้านของ sensor ด้านบนและด้านล่าง
- อุณหภูมิ (Thermometer)
ไอเดียการนำไปใช้:
- วางในจุดที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีน้ำรั่วของบ้าน หรือจุดที่ตรวจเจอว่าน้ำรั่ว และไม่แน่ใจว่าจะเกิดอีกรึเปล่า เช่น ใต้ซิงค์อ่างล้างจาน ใต้ฝ้าที่น้ำรั่วลงมาจากชั้น 2
- ใช้รอน้ำในอ่างอาบน้ำ เมื่อต้องรอน้ำเป็นเวลานาน คุณอาจเปิดน้ำอุ่นรอไว้เพื่อลงไปแช่ อาจใช้เวลาสัก 5-10 นาที ไม่ต้องมาคอยเฝ้าอีกต่อไป ให้ notification ไปหามือถือได้เลย ไม่เปลืองน้ำ ไม่ต้องกลัวไฟช็อต เพราะออกแบบมาแล้ว และการจ่ายไฟใช้แค่ถ่านก้อนเล็กๆ เอง ไม่มีกำลังไฟมากพอจะช็อตใครได้
- ติดในแท็งก์น้ำ เช็คว่าน้ำเติมเต็มถังแล้วทางแอป
- วางที่พื้นใกล้อุปกรณ์ใช้น้ำเช่น เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน เพื่อทราบเมื่อน้ำรั่ว
ราคา: 1,150 บาท
ชิ้นที่ 4 Samsung Button
กดเพื่อควบคุมหรือรันคำสั่งอุปกรณ์พร้อมกันทั้งเซ็ต
ขนาดเล็กสวยงาม ใช้งานง่าย
สำหรับอุปกรณ์ Smart Home ต่างๆ อย่างหลอดไฟก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟจากหลอดไปหาสวิตซ์แล้ว สามารถใช้ปุ่มไร้สายแบบนี้ เพื่อสั่งการทำงานได้เลย แถมยังฉลาดกว่านั้นด้วยเราสามารถเปลี่ยนคำสั่งของสวิตซ์ให้ไปทำงานฟังก์ชันไหนของอุปกรณ์ไหนก็ได้ (ถ้าอยู่ในระบบ Smart Device เดียวกัน) ของแถมคือ เป็นตัวมอนิเตอร์อุณหภูมิด้วย
Detect: อุณหภูมิ (Thermometer)
Action ทำได้ 3 รูปแบบ
- กดปุ่ม (Press)
- กดปุ่มสองที (Double Pressed)
- กดค้าง 1 วินาที (Held)
ไอเดียการนำไปใช้:
- เป็นสวิตซ์เปิดปิดไฟ
- เป็นสวิตซ์สั่งทำงานทีละหลายอุปกรณ์ ด้วยการกดครั้งเดียว เช่น เมื่อจะปิดบ้านชั้นล่างขึ้นนอน อาจสั่งปิดไฟทุกดวง + ปิดผ้าม่าน + เรียกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นออกมาทำงาน / หรือ เมื่อมาถึงบ้านกดปุ่มเดียว ก็เปิดม่าน เปิดไฟ เปิดแอร์ เปิดเพลง พร้อมกัน
- สั่งให้หน้าต่างประตูทุกบานเลิกแจ้งเตือน เพราะกลับบ้านแล้ว
- กดเพื่อส่งข้อความแจ้งเตือนไปหาแฟนว่า “ถึงบ้านแล้ว”
- เนื่องจากมี Action ที่ทำได้ 3 รูปแบบ สามารถใส่ชุดคำสั่งที่ไม่เหมือนกันได้
ราคา: 950 บาท
ชิ้นที่ 5 Samsung Smart Home Hub
หัวใจของอุปกรณ์ SmartThings ทุกชิ้น
เนื่องด้วยอุปกรณ์ Smart Home ทุกตัวไม่เฉพาะกับ SmartThings นั้นมีขนาดเล็ก ทำให้ไม่สามารถใส่เสาอากาศและอุปกรณ์ WIFI รวมถึง CPU ในการประมวลคำสั่งที่ซับซ้อนลงไปได้ทั้งหมด ทำให้ต้องมีศูนย์กลางที่ทำหน้าที่นั้นแทน ซึ่งนั่นก็คืออุปกรณ์ตัวนี้ ถือเป็นหัวใจหลักในการสื่อสารของอุปกรณ์ Smart Home ชิ้นเล็กๆ ทั้งหมด ในการรับคำสั่งและต่ออินเตอร์เน็ต
Detect: ไม่ได้ใช้ตรวจจับ
ความสามารถ:
- สามารถเชื่อมต่อกับ WIFI Router ของบ้านได้แบบไร้สายทาง WIFI แล้วโดยไม่ต้องใช้สาย LAN ทำให้ไม่จำเป็นต้องวางอุปกรณ์ชิ้นนี้ตรงจุดเดียวกับ WIFI ก็ง่าย แต่ก็ยังมีช่องเสียบ LAN อยู่ อย่างไรการใช้สายก็จะเสถียรที่สุด
- รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ของ Samsung และ Partner มากกว่า 40 แบรนด์ อย่างเช่นใช้ Smart Home ของ IKEA ก็ได้ ซึ่งยังมี Philips Hue, Bose, TP-Link และอีกมากมาย และรอบรับการทำงานกับอุปกรณ์ที่ใช้ Google, Alexa, SmartThings รวมถึง ZigBee Protocals ได้อีกมากมาย
- ระยะทำการ ห่างจากอุปกรณ์ลูกประมาณ 15-40 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผนังที่กีดขวางและสภาพแวดล้อมที่บดบังสัญญานด้วย
- ทำให้ใช้ Voice Control ผ่าน Google Assistant, Amazon Alexa ได้
- ใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์ SmartThings Sensors รุ่นเก่ากว่านี้ได้
สรุปคือ ไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์ SmartThings 1 หรือ 10 ชิ้นก็ตาม คุณจะต้องมี Smart Home Hub 1 ตัวตรงกลางเสมอ
ราคา: 4,190 บาท
ถ้าหากคุณสนใจ แต่ยังไม่แน่ใจว่า ทำไมควรจะต้องใช้อุปกรณ์ Smart Home จาก Samsung เรามี
6 เหตุผลที่เราคิดว่า Samsung SmartThings นั้นน่าเลือกใช้
- งานประกอบแข็งแรง Robust Engineering
คุณคงไม่อยากเซ็ตอัพอุปกรณ์แล้วต้องมาคอยเปลี่ยนกันทุกปีเพราะมันเสียก่อน ความทนทานในระยะยาว สิ่งเหล่านี้ดูได้ง่ายจากวัสดุและงานประกอบภายนอก ซึ่งสะท้อนถึงวงจรไฟฟ้าภายในผลิตในโรงงานทันสมัย ทำให้อายุการใช้งานยืนยาว - ดีไซน์สวยทันสมัย Beautifully Design
ช่วยให้การนำไปใช้ในบ้านดูดี เรื่องงานดีไซน์นี่น้อยบริษัทมากที่จะออกแบบได้สูสีกับ Samsung เมื่อคุณแต่งบ้านสวยๆ แล้วลงอุปกรณ์ที่ไฮเทคอย่างเดียว แต่ดีไซน์ไม่สวย บ้านคงเหมือนห้อง server มากกว่า - คุณภาพสัญญาน Network Quality
อย่าลืมว่า Samsung นั้นเป็นบริษัทผู้นำที่ผลิตอุปกรณ์สื่อสารและมือถือมานาน เรื่องของคุณภาพสัญญานนั้นมาเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลก มีเทคโนโลยีและสิทธิบัตรการสื่อสารจำนวนมาก ซึ่งมันส่งผลต่อ response ของอุปกรณ์ Smart Home ที่ต้องเชื่อมต่อตลอดเวลา และต้องการความรวดเร็วกระฉับกระเฉง - คุยกับค่ายอื่นรู้เรื่อง Universal Connection
ถ้าซื้อ Smart Home มาแล้วใช้ได้แค่ในโลกของแบรนด์นั้น ต้องซื้ออุปกรณ์ของแบรนด์นั้นอย่างเดียว ไม่สามารถคุยกับอุปกรณ์แบรนด์อื่น ไม่มี APIs เชื่อมต่อออกสู่จักรวาลภายนอก คุยกับ Google Assistant, Amazon Alexa ไม่รู้เรื่อง ก็จะขาดความสามารถในการเพิ่มขยายไปอีกมาก แต่ Samsung SmartThings มีพร้อม แถมยังคุยกับเน็ตเวิร์คอื่นอย่าง Zigbee และ ZWave ซึ่งเป็น Smart Home Device อีก 2 จักรวาลใหญ่รู้เรื่องด้วย - แอปดี ง่ายต่อการใช้งาน Good Apps + Ease of Use
ใครก็มี mobile apps แล้วยุคนี้ แต่แค่มี กับมีแอปที่ดีนั้นต่างกันมาก เรื่องดิจิตอลเหล่านี้ก็ต้องวางใจได้กับ Samsung ไม่เฉพาะแต่ Samsung หรือ Android คนใช้ iPhone ก็สามารถโหลด iOS Apps มาใช้ได้เช่นกัน
6. อุปกรณ์ในเครือจำนวนมาก Tons of IoT* Electronic Devices (Internet of Things)
ข้อนี้สำคัญมาก ในแบรนด์ของ SmartThings นั้นนอกจากจะเชื่อมต่อสู่โลกภายนอกทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้แล้วความดีคือ เฉพาะในแบรนด์ SmartThings ของ Samsung เองก็มีอุปกรณ์เยอะมากมหาศาลที่คุยผ่านแอปเดียวกันรู้เรื่อง
ไม่เฉพาะอุปกรณ์ Smart Home แต่ลามไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิกของ Samsung ตั้งแต่ ทีวี เครื่องซักผ้า แอร์ เครื่องฟอกอากาศ คีย์แท็ก นาฬิกา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ฯลฯ อุปกรณ์ไฟฟ้าสมัยใหม่ของ Samsung เกือบทุกชิ้น สามารถคุยกันกับ Sensor และอุปกรณ์ Smart Things ในเครือรู้เรื่องเต็ม 100% โดยไม่ต้องแปลภาษาผ่าน APIs ในโลกนี้มีน้อยบริษัทมากๆ ที่จะมีจำนวนเครื่องใช้ในบ้านที่เป็นที่นิยมมาก่อนแล้วสามารถใช้เป็นระบบ IoT ได้ด้วย
ลองคิดง่ายๆ แค่ว่าแบรนด์ทีวีที่มีให้เลือกในตลาดทุกวันนี้มีผู้นำอยู่แค่ไม่กี่ยี่ห้อ แต่ในแบรนด์เหล่านั้น แทบไม่เห็นผู้ที่จริงจังด้าน Smart Device เท่า Samsung จึงจัดว่าในการใช้ Smart Home ให้ดีและง่ายกับชีวิตจริง Samsung นั้นเป็นผู้นำด้านนี้อย่างแท้จริง
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นจุดเด่นของอุปกรณ์ SmartThings ของ Samsung ที่จริงมีอีกหลายอย่างเยอะมาก ซึ่งคุณสามารถดูได้จากลิงก์นี้
https://www.samsung.com/th/apps/smartthings/
นอกจาก 5 ชิ้นที่เรามารีวิวในวันนี้แล้ว ยังมีอุปกรณ์ Smart Home อีกมากมายของ Samsung ให้คุณได้สนุกกับการแต่งบ้านให้อัจฉริยะมากขึ้นกว่าเดิม สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ของ Samsung.com
Read more:
เทคโนโลยี SmartThings และ Partner https://www.samsung.com/th/smartthings/
หาซื้ออุปกรณ์ SmartThings เหล่านี้ https://www.samsung.com/th/smartthings/all-smartthings/