หากมองสนามแข่งวันนี้ จะพบว่าชุดฟุตบอลแต่ละทีมสวมใส่นั้น นอกจากจะมีนัยยะของความเป็นทีมเวิร์กที่นำมาซึ่งพลังใจสำหรับผู้เล่นและบรรดากองเชียร์แล้ว ชุดฟุตบอลยังมีการออกแบบที่น่าทึ่ง ด้วยสีสัน ลวดลาย และวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษในการใช้งาน โดยสองเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกอุปกรณ์กีฬา ไนกี้ Nike จากสหรัฐฯ และอาดิอาส Adidas จากเยอรมนี ต่างก็แข่งขันกันทั้งในและนอกสนามเพื่อขึ้นเป็นผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลชั้นนำทั่วโลก และช่วงชิงสิทธิในการผลิตและจำหน่ายชุดนักเตะสวมลงสนามแข่ง เพราะชุดกีฬาเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ห่อหุ้มร่างกาย แต่ยังเป็นแหล่งรายได้ที่มหาศาลที่จะได้รับจากแฟนบอลทั่วโลกอีกด้วยไนกี้ Nike และอาดิดาส Adidas ใส่ใจและพิถีพิถันในการผลิตชุดฟุตบอลตตั้งแต่กระบวนการการพัฒนาวัสดุไปจนถึงกระบวนการการผลิต ไนกี้ผู้สนับสนุนการผลิตชุดแข่งให้กับทีมใหญ่อย่าง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” และ “บาร์เซโลนา” มุ่งเน้นผลิตเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดลล้อมเป็นหลัก ขวดพลาสติกได้ถูกนำมารีไซเคิลและขึ้นรูปใหม่ เพื่อผลิตเป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์ก่อนนำไปถักทอเป็นชุดกีฬา โดยแต่ละชุดนั้นจะต้องอาศัยขวดพลาสติกจำนวน 13 ขวดในการผลิต ในปี 2012 ไนกี้ได้นำขยะขวดพลาสติกมาใช้ในการผลิตเป็นชุดกีฬาแล้วทั้งสิ้น 16 ล้านขวด ซึ่งต้องอาศัยสนามฟุตบอลมากถึง 28 สนามในการบรรจุขวดจำนวนมหาศาลทั้งหมดนี้
ส่วนอาดิอาส Adidas ที่ได้สิทธิเป็นสปอนเซอร์ผลิตชุดกีฬาให้กับทีมฟุตบอลสโมสรดังอย่าง “ลิเวอร์พูล” และ “เรอัล มาดริด” ก็มีความโด่ดเด่นด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย Techfit คือ การนำวัสดุประเภทผ้าแบบพิเศษที่มีการหลอมเส้นใยไร้รอยตะเข็บมาใช้ในการตัดเย็บเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นเวลาส่วมใส่ โดยเฉพาะในตำแหน่งอวัยวะสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการแข่งขัน เช่น บริเวณปิดหรือข้อต่อต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการนำผ้าแบบ Tuned Compression มาผสมกับยางยืดที่เรียกว่า Power bands ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อของผู้ส่วมใส่มีพลังมากขึ้น อันเป็นผลจากปริมาณออกซิเจนที่ไหลเวียนในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน ตลอดจนนำเทคโนโลยีการทอผ้าแบบ ClimaCool ที่เนื้อผ้าสามารถดูดซับและกระจายเหงื่อได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักเวลาชุ่มเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากย้อนไปในยุดเริ่มต้นของกีฬาฟุตบอลฝยยุคแรกยังคงเป็นไปได้ไม่มากไปกว่าสิ่งที่ใช้ส่วมใส่เพื่อความสบายขณะเล่นกีฬา ก่อนจะเพิ่มการสวมหมวกต่างสี เพื่อแบ่งแยกผู้เล่นแต่ละทีม ไปจนถึงการพัฒนาเนื้อผ้าจากผ้าขนสัตว์ ผ้าดิบ จนมาถึงยุคผ้าใยสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่สำหรับวันนี้ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกลชุดฟุตบอลจึงเป็นมากกว่าชุดกีฬาธรรมดาๆเพราะมันคือตัวช่วยสำคัญที่่มีส่วนกับชัยชนะของผู้เล่นในแต่ละทีมอีกด้วย ขอบคุณเนื้อหา จาก “คิด Creative Thailand” TCDC