ปี 2019 แล้วหูฟังบลูทูธไร้สายไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ฟังเพลงแค่วัยรุ่นอีกต่อไป คนขับรถก็ปลอดภัย คนทำธุรกิจบินบ่อยก็ช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นด้วย Noise Cancelling ในยุคที่เพลงมี bitrate สูง มีบริการทั้ง Spotify, Tidal ในไทยยังมี Joox แถมเดี๋ยวนี้ยังมี Podcast ดีอีกหลายรายการ หรือแม้แต่ดู YouTube / Facebook Video บนรถไฟฟ้า ทำให้การมีหูฟังบลูทูธไร้สายดีๆ คือสิ่งที่สร้างประสบการณ์แตกต่างได้มาก
มีหลายคนที่ไม่อยากใช้หูฟังบลูทูธ เพราะใส่แล้วดูประหลาดมากกว่าสวย วันนี้เราได้พบกับหูฟังบลูทูธสีดำลุ๊ค luxury เรียบแต่หรู เมื่อใส่แล้วเนียนไปกับการแต่งกายได้ง่าย Sennheiser Momentum True Wireless ลองมาดูกันว่า อะไรที่ทำให้เราคิดว่า นี่เป็นหูฟังบลูทูธไร้สายที่ดูดีมีคลาสที่สุดในปี 2019 นี้
Sennheiser Official Store ฉลองเทศกาล 11.11 ที่ Lazada
พิเศษโปรโมชั่น 3 ต่อ ในวันที่ 11 พ.ย. 62
Momentum True Wireless เหลือเพียง 8,990.-
พร้อมลุ้นรับฟรี! iPhone 11 Pro จำนวน 10 รางวัล
ลดเพิ่ม 500.- เมื่อช็อปผ่าน Shopback https://app.shopback.com/sfb
ผ่อนฟรี 0% นานสูงสุด 10 เดือน
แค่หูฟังบลูทูธไร้สาย
จะดูมีคลาสกว่ากันตรงไหน?
1. ออกแบบเรียบง่าย
สำหรับบางคน อาจอยากดูโดดเด่นเมื่อใส่หูฟัง แต่กับบางคนหูฟังเด่นเกินไปไม่ใช่เรื่องดี เวลาแต่งตัวดีๆ แล้วหูฟังเด่นสีขาวนี่จะทำให้ขัดตามาก การออกแบบเรียบๆ ง่ายๆ สีดำไว้ก่อนเป็นทางเลือกที่ดี ข้อนี้ได้คะแนนสำหรับ earbud ทุกยี่ห้อที่ใช้สีดำ
สำหรับ Sennheiser Momentum True Wireless ได้รับการออกแบบมาในระดับงานศิลปะ ถูกออกแบบให้เล็กมาก น้ำหนักเบา ด้วยวัสดุสีดำด้านแบบพรีเมียมไม่สะท้อนแสงและไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเหมือนวัสดุ glossy black ผ่านประกอบสุดเนี๊ยบ ทำให้ Sennheiser Momentum True Wireless ไม่ได้เป็นเพียงหูฟังบลูทูธ แต่เป็นเหมือนเครื่องประดับอีกชิ้นบนตัวของคุณ
2. Premium Look
จะดำด้านทั้งหูฟังก็ไม่ดี อย่างการแต่งบ้านเมื่อใช้หินอ่อนแล้วต้องใส่เส้นคิ้วตัดด้วยสีทองหรือสี metalic สักนิด เพื่อให้มีจุดแวววาว สำหรับ Sennheiser Momentum True Wireless นั้นตรงจุดที่เป็นโลโก้นั้นทำจากวัสดุ metalic เข้ามาแอบทำให้ดูพรีเมียมมากยิ่งขึ้น ทำให้ดีไซน์คล้ายกระดุมที่อยู่บนเสื้อสูทแพงๆ
3. Premium UX
หูฟังบลูทูธไร้สายส่วนใหญ่ต้องกดปุ่มควบคุม การที่มันมีปุ่มนั้นทำให้งานออกแบบรู้สึกสะดุดและดูพรีเมียมน้อยลง ตรงกันข้ามกับ Sennheiser Momentum True Wireless ไม่แค่ไร้ปุ่ม แต่ยังมี User Experience ในการใช้งานที่เหนือระดับขึ้นไปอีก การใช้ Touch Control นอกจากทำให้หูฟังบลูทูธตัวนี้ไม่มีปุ่มใดๆ และยังง่ายกว่าต่อการควบคุมอีกด้วย (วิธีการควบคุมด้านล่าง)
4. Genius of Design
การใส่วัสดุผิว metallic เข้ามาอาจช่วยให้ดูพรีเมียมขึ้น แต่วัสดุโลหะที่มันวาวนั้นมีข้อเสีย คือ เมื่อใช้ร่วมกับการสัมผัสแล้วจะทิ้งรอยนิ้วมือให้เลอะตั้งแต่ครั้งแรก แต่ของ Sennheiser ฉลาดมากที่ออกแบบด้วยการทำให้ texture ของพื้นผิวสัมผัสโลหะอลูมินัมแบบเป็นหยัก wave เล็กๆ มาทำเป็น FACEPLATE เป็นรายละเอียดที่น่าทึ่ง เพราะได้ประโยชน์สองอย่างทันที ทั้งไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเมื่อทัช แล้วยังทำให้ดูพรีเมียมจากเหลื่อมแสงที่ spin เข้าไปอีก
5. Brand สะท้อนภาพลักษณ์
สุดท้ายปฏิเสทไม่ได้ว่าแบรนด์ที่จะอยู่บนตัวหูฟังบลูทูธเองจะสะท้อนภาพออกมา สำหรับ Sennheiser นอกจากจะเป็นแบรนด์เครื่องเสียงและอุปกรณ์จากเยอรมันนีที่มีชื่อเสียงในระดับโลกมานาน
Sennheiser ไม่ได้ทำเพียงหูฟังส่วนตัว แต่ยังเป็นอุปกรณ์ของนักดนตรีและวงการถ่ายทอดสดระดับมืออาชีพทั่วโลกที่มีคุณภาพและราคาสูง เช่น ไมค์ไร้สายของ Sennheiser นั้นราคาแพงกว่ายี่ห้อใหม่ๆ เกือบ 3-4 เท่า แม้จะอย่างนั้นก็ยังเป็นที่นิยมในวงการทีวีเพราะมั่นใจได้ในคุณภาพ ในอุปกรณ์ส่วนตัวนั้น Sennheiser ก็ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีภาพทางพรีเมียมมาตลอด ทำให้เพียงแค่เห็นโลโก้ของ Sennheiser ก็รู้สึกได้เลยว่าผู้ใช้นั้นไม่ธรรมดา
“เสียง” ส่วนสำคัญสุดของ
หูฟังบลูทูธ Sennheiser
เราขึ้นต้นรีวิวหูฟังบลูทูธด้วยการออกแบบ แทนที่จะเป็นเรื่องคุณภาพเสียง เพราะ Sennheiser ไม่เคยทำให้ผิดหวังด้านเสียง แม้แต่ Sennheiser Momentum True Wireless ที่ออกแบบได้อย่างสวยงามและมีลูกเล่นการทัชที่น่าตื่นเต้น แต่ คุณภาพเสียงยังคงเป็น ข้อดีอันดับหนึ่งของหูฟังบลูทูธตัวนี้
MOMENTUM True Wireless เป็นหูฟังบลูทูธไร้สายที่ไม่เพียงแค่ดีที่รูปงาม แต่ยังพกพาความสุดทางคุณภาพเสียงจากแบรนด์ระดับเทพมาเต็มๆ ลำโพงออกแบบใช้ DYNAMIC DRIVER ขนาด 7 มิลลิเมตร ของ Sennheiser ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมพร้อมชนคู่แข่งในเลเวลระดับโลก
พร้อมกับเทคโนโลยี Qualcomm® aptX™ Low Latency หนึ่งในเทคโนโลยีที่ให้อุปกรณ์บลูทูธมีการตอบสนองเร็วจนทำงานร่วมกับ Noise Cancellation จากไมค์ถึง 2 ตัวบนเทคนิคแบบ beamforming ทั้งหมดนี้ทำให้ได้โหมด Transparent Hearing ที่เมื่อเปิดจะทำให้คุณสามารถทั้งฟังดนตรีไปพร้อมการได้ยินเสียงจากภายนอกโดยไร้ความหน่วง ประสบการณ์การใช้หูฟังบลูทูธไร้สายของคุณเหมือนยกขึ้นไปอีกระดับ
เรื่องคุณภาพเสียงเนี่ย คนรีวิวจะบอกว่าดียังไงก็ได้ หากอยากรู้ว่าคาแรคเตอร์เสียงเป็นแบบไหน ก็ไปลองตามร้านได้เลย ระดับ Sennheiser แล้ว ไม่เสียชื่อเสียงที่สะสมมา
ใส่ง่าย สบายหู วิ่งยังไม่หลุด
หูแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ในกล่องเลยมียาง earbud แนบมาให้ถึง 4 ขนาด คุณจึงสามารถเลือกขนาดที่สบายกับหูมากที่สุด จากการทดลองเองแม้ขนาดกลางที่ติดมาก็ใส่สบายอยู่แล้ว วิธีการล็อคกับหูก็แสนง่าย เมื่อใส่เข้าไปในรูหูแล้วแล้วบิดขึ้นอีกนิด แนวโค้งของหูฟังจะแนบเข้าพอดีหูเลย แม้วิ่งก็ไม่หลุด ที่ดีคือ ไม่ต้องมีก้านเกี่ยวให้รู้สึกคันหรือบาดใบหู
ใส่ปุ๊บ (หูฟัง) รู้ปั๊บ
ไม่พอๆ พรีเมียมไปอีกคือ เมื่อคุณใส่หูฟังทั้งสองข้างเข้าที่หู หูฟังจะทำการเปิดตัวเองให้คุณ จากการหลับในโหมด sleep ให้กลับมาทำงานได้ พร้อมเสียงจาก Personal Assistant แจ้งสถานะในหูว่า “Power On” ให้ด้วย และเมื่อคุณถอดหูฟังข้างใดข้างหนึ่งออก ระบบจะรู้เองทันที และจะหยุดเพลง/วิดีโอ/YouTube ที่เล่นอยู่ (Pause) ให้โดยอัตโนมัติ
พรีเมียมต่อเนื่องมาเป็นชุด
Sennheiser Momentum True Wireless
กล่องก็ออกแบบดี แบตเตอรี่ Lithium ใช้งานได้ 4 ชั่วโมง + อีก 8 ชั่วโมง จากกล่องเก็บหูฟังที่มีแบตเก็บไฟด้วย ทุกครั้งที่เอาหูฟังเก็บใส่กล่องเท่ากับการชาร์จไฟ รวมได้พลังงานรวม 12 ชั่วโมง ตัวกล่องเล็ก เป็นวัสดุบุผ้าน่าจับไปใส่ในกระเป๋าอื่นง่าย
เรื่องแบตเตอรี่มีจุดสังเกตเล็กน้อย ดูที่ด้านล่าง *
หูฟัง Bluetooth 5.0 เป็นเทคโนโลยีใหม่มาแทน Bluetooth 4.2 (2014) เป็นเทคโนโลยีที่เร็วกว่า 2 เท่า (2 Mbps) เชื่อมต่อได้ไกลขึ้น 4 เท่า (Max: 200 เมตรนอกอาคารที่ไม่มีผนังและ 50 เมตรในอาคาร) รับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นได้ 8 เท่า (ไฟล์เพลงคุณภาพสูงนี่สบายเลย) มีความสามารถในสถาวะสัญญานแออัดสูงกว่า (ที่มีคนเยอะ) สำคัญคือ ใช้พลังงานน้อยกว่าทำให้แบตเตอรี่หมดช้ากว่า ทั้งยังรองรับอุปกรณ์ IoT และอื่นๆ อีกมาก
Voice Assistant Access มีระบบเสียงรายงานในหูฟัง รวมถึงการใช้งาน SIRI ผ่านทาง หูฟังได้ด้วย
LED Indicator ด้านในหูฟังมีไฟ LED จุดเล็กๆ ที่แสดงหลายสี เพื่อสะท้อนสถานะของหูฟัง
Gold plated connectors จุดสัมผัสกับแท่นชาร์จในกล่องเป็นแม่เหล็กทองคำ (คงไม่ใช่ทองคำแท้หรอกมั้ง) ช่วยให้เวลาใส่หูฟังเข้ากล่อง มันก็จะดูดหูฟังเข้าไปในแท่นเลย ไม่หลุดหล่นออกมา ตรงนี้ก็รู้สึกดีพรีเมียมมาก
Touch Control ไม่มีปุ่มใดๆ ควบคุมด้วยระบบสัมผัสเท่านั้น หรูหรามาก
IPX4 ป้องกันน้ำกระเด็นใส่ หูฟังบลูทูธไร้สายตัวนี้มาพร้อมมาตรฐาน IPX4 ซึ่งหมายถึงป้องกันน้ำกระเด็นใส่ได้ แม้ไม่ถึงขั้น IPX5 (ป้องกันน้ำที่ฉีดด้วยแรงดันต่ำอย่างน้อย 3 นาที) แต่ก็ถือว่าเพียงพออยู่ทีเดียว สำคัญคือ กันเหงื่อได้ แต่ไม่แน่ใจว่ากันน้ำขนาดเอาไปล้างน้ำได้หรือไม่
Transparent Hearing
คุยกับคนอื่นได้ โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
เวลามีใครจะคุยกับคนใส่หูฟัง นอกจากความลำบากถอดๆ ใส่ๆ จะทำให้คนเกรงใจไม่อยากคุยด้วยแล้ว ยังต้องคอยมาจัดท่าหูใส่ใหม่กันทุกครั้ง ขอบคุณฟีเจอร์นี้ที่ทำให้เราไม่กลายเป็นคนไร้เพื่อน เพียงแค่คุณ Double Touch ที่หูฟังบลูทูธข้างขวา หูฟังจะเปิดโหมด Transparent Hearing เพื่อใช้ไมค์บนหูฟังให้ทันที เสียงทั้งหมดก็จะผ่านเข้ามาในหูฟังให้ได้ยินปกติเหมือนไม่ได้ใส่หูฟังเลย
เรายังสามารถ setting ได้ด้วยว่า เมื่อเปิดโหมด Transparent Hearing จะให้หยุดเล่นเพลง หรือเล่นเพลงแบบซ้อนให้เสียงภายนอกเข้าพร้อมกัน โหมดนี้ยังช่วยให้ปลอดภัยเวลาขับรถหรือเดินริมถนนขณะที่คุณใช้หูฟังไปด้วยได้
Touch Control ทำงานอย่างไร?
หูฟังบลูทูธตัวนี้ไม่ใช่แค่ไร้สายยังไร้ปุ่มด้วย ทำงานด้วยการ touch ที่โลหะบนหูฟัง (ตรงโลโก้) ให้ฟังก์ชั่นสั่งการตามนี้
Left earbud
- แตะ 1 ครั้ง : Play/Pause หยุดเพลง/เล่นต่อ
- แตะ 2 ครั้ง (ติดกัน) : Next song เปลี่ยนเพลง (หรือวิดีโอ) ต่อไป
- แตะ 3 ครั้ง (ติดกัน) : Previous song ย้อนเพลง (หรือวิดีโอ) ก่อนหน้า
- แตะค้าง : Volume Down ลงความดังเสียง
Right earbud
- แตะ 1 ครั้ง : Accept call / Voice Assistance รับสาย หรือให้ผู้ช่วยรายงานสถานะหูฟัง
- แตะ 2 ครั้ง : Reject call / Transparent Hearing วางสาย หรือเปิดปิดโหมด Transparent Hearing
- แตะค้าง : Volume Up เพิ่มความดังเสียง
แตะค้างพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง : แตะค้างไว้ 5 วินาที เพื่อ Paring หูฟังเข้ากับมือถือ (ทำเฉพาะเมื่อเริ่มใช้ครั้งแรก)
App Setting หูฟังบลูทูธ
Sennheiser Momentum True Wireless
Sennheiser Smart Control บนแอพใช้งานง่าย แต่ก็ advance ที่ปรับ EQ ได้ – มันน่าเสียดายเวลาที่หากชอบทุกอย่างของหูฟัง แต่บุคลิกเสียงเกิดยังขาดอีกนิด ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ปัจเจกเอามากๆ อันนี้ก็ยังสามารถปรับแต่งคุณภาพเสียงหรือ EQ ได้ตามชอบ ชอบเบสเยอะหรือชอบเสียงใส อันนี้ปรับเองได้เลย
ไม่ต้องกังวลเมื่อทำหาย
หูฟังเล็กขนาดนี้ ถึงจะมีกล่องแต่หลายคนก็ทำหายกันเป็นประจำ Sennheiser เขามีอะไหล่ขายแยกด้วยทั้งหูฟังข้างซ้าย ข้างขวา กล่องชาร์จ
จุดสังเกต
แทบจะเป็นข้อเดียวของหูฟังตัวนี้ คือ หลายคนพบว่าแบตเตอรี่หมดค่อนข้างเร็วแม้จะใส่ไว้ในเคส ดูเหมือน Sennheiser ได้ออกแบบหูฟังตัวนี้มาเพื่อให้ไม่ปิดการทำงานแต่เข้าโหมด sleep/stanby แทนเพื่อใช้งานสะดวก แบบนำออกมาจากกล่องใส่เข้าหู ตัวหูฟังจะรู้เองและทำงาน Power On อัตโนมัติเลยทันที
ทำให้หูฟังบลูทูธ Sennheiser ตัวนี้ อาจไม่มีแบตเมื่อทิ้งไว้เป็นสัปดาห์ วิธีแก้ตอนนี้ คือ ถ้าเสียบชาร์จเคสหูฟังเป็นทุกวันได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี อาจเสียบกล่องไว้กับที่ชาร์จในรถยนต์ USB ที่ออฟฟิศ หรือ Powerbank คาดหวังว่า firmware ในอนาคตจะจัดการแบตเตอรี่ได้ดีขึ้น
ไมโครโฟนสามารถดึงเสียงพูดเข้าไปได้ชัดเจน และเสียงคู่สายออกทั้ง 2 ข้าง แต่ไมโครโฟนจะไม่ได้ตัดเสียงรบกวนภายนอก ยังได้ยินบรรยากาศรอบๆ ตัวเข้าไปบ้าง
สรุปน่าซื้อไหม?
- พรีเมียมทั้งคุณภาพเสียงและการออกแบบ ทำให้ได้ใจเราเต็มๆ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด สำหรับใช้งานทุกวันอย่างสุนทรีย์ ได้ทั้งคนชอบฟังเพลง และใช้โทรศัพท์
- ได้แม้กระทั่งใส่ออกกำลังกาย เพราะกันน้ำกันเหงื่อกระเด็นใส่ได้
- ราคาค่อนข้างสูงก็จริง แต่ใช้ตัวเดียวจบเลย
- ของแท้ในไทย รับประกันในด้านความผิดปกติทางเสียงหรือลำโพง และความผิดปกติของระบบแบตเตอรี่ถึง 2 ปีเต็ม คุ้มมาก สำหรับหูฟังที่ต้องเสี่ยงกับการใช้งานนอกบ้านทุกวัน ฝุ่นอาจจะเข้าไปเป็นอะไรได้มากกว่าเครื่องเสียงที่อยู่แต่ในบ้าน
- น่าซื้อมาก แนะนำ!
Sennheiser Official Store ฉลองเทศกาล 11.11 ที่ Lazada
พิเศษโปรโมชั่น 3 ต่อ ในวันที่ 11 พ.ย. 62
Momentum True Wireless เหลือเพียง 8,990.-
พร้อมลุ้นรับฟรี! iPhone 11 Pro จำนวน 10 รางวัล
ลดเพิ่ม 500.- เมื่อช็อปผ่าน Shopback https://app.shopback.com/sfb
ผ่อนฟรี 0% นานสูงสุด 10 เดือน