ในวันนี้เราจะพาคุณมาชม Roborock Dyad Pro ที่ไม่ใช่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แต่เป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบ เครื่องล้างพื้น ไร้สาย อัจฉริยะ (Smart Cordless Handheld Wet and Dry Vacuum Cleaner) ตัวหนึ่งที่มีฟีเจอร์ท็อปสุดจัดเต็มที่สุดในโลก
TL;DR : Roborock Dyad Pro
- เป็นเครื่อง ดูด-ถู แบบไร้สาย พร้อมนวัตกรรมท็อปที่สุดของโลกตัวนึงในวันนี้
- เมื่อเอากลับไปวางบนฐานชาร์จ จะล้างหัวแปรงอัตโนมัติและอบแห้งด้วยลมร้อนเพื่อไม่ให้มีกลิ่นอับ
- เปลี่ยนโหมดอัตโนมัติเมื่อพบพื้นไม่สะอาด คำนวนการจ่ายน้ำยาถูพื้นเอง เมื่อชาร์จเต็มใช้งานได้นานถึง 43 นาที หรือ 300 ตร.ม.
- เชื่อมต่อแอปที่ดีและละเอียดมาก ตั้งค่าระบบอัตโนมัติต่างๆ ได้ตามใจ
- พูดกับคุณเป็น “ภาษาไทย” เมื่อแจ้งเตือนต่างๆ
- ราคาโปรวันนี้อยู่ประมาณ 14,000-15,000 บาท
- รับประกันนานสูงสุด 3 ปีเต็มทุกชิ้นส่วน (รวมถึงแบตเตอรี่และมอเตอร์ด้วย)*
- *เงื่อนไขการรับประกันเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ถ้ามีหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
ควรจะซื้อ Roborock Dyad Pro ไหม?
ตอบสั้นๆ: ซื้อ! Roborock Dyad Pro มีหลายฟีเจอร์เสริมจุดบอดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เช่น
1. พื้นห้องน้ำและส่วนที่หุ่นยนต์เข้าไม่ได้
เอาไปถูพื้นห้องน้ำให้สะอาดเลี่ยมได้แทนการล้างพื้นห้องน้ำเลย หรือตามซอกที่เฟอร์นิเจอร์บังแล้วหุ่นยนต์เข้าไม่สะดวก
2. พื้นเรียบ Outdoor
เครื่องนี้ออกแบบมาให้ทำความสะอาดหนักกว่าหุ่นยนต์ เช่น พื้นกระเบื้อง Outdoor ก็ใช้ได้เลย พื้นกระเบื้องชานบ้าน โรงรถ และอีกหลายจุดที่คุณไม่ควรเอาหุ่นยนต์แพงๆ + บอบบาง ไปเสี่ยงให้อุปกรณ์เสื่อมไวกว่าเดิม แถมไม้แบบนี้ก็แรงกว่าหุ่นยนต์ 4-10 เท่า
* แต่พื้นปูนขรุขระก็ไม่ควรนะ แปรงจะพังไว เครื่องเป็นรอยอยู่แล้ว
3. ความรวดเร็วในการใช้งาน
แม้หุ่นยนต์จะมีรีโมทหรืออุ้มมาได้ แต่วุ่นวายกว่าการเดินไปหยิบไม้ถูแบบนี้มาทำความสะอาดมากเลย
Unboxing
Unbox มาก็พบความประทับใจที่ว่าการออกแบบกล่องชั้นในก็ดี (ยังหมกมุ่นอยู่กับกล่อง) และของก็มีมาให้ตามในรูป ส่วนที่มีมาให้ 2 ชิ้นคือ Filter นะ เขามีในเครื่องอยู่แล้ว 1 ชิ้น และมีสำรองมาให้ข้างนอกอีก 1 ชิ้น
ส่วนอุปกรณ์ที่ไม่มี ต้องซื้อเพิ่ม คือ น้ำยาถูพื้น Roborock x Omo (โอโม่) ส่วนตัวแนะนำให้สั่งซื้อไปได้เลยจากร้านแท้ Roborock Thailand ก็ ฿399 (สั่งได้ที่นี่ https://shope.ee/1VRO2VOJHc) เพราะ
1. เราไม่แน่ใจว่าไปใช้น้ำยายี่ห้ออื่นจะต้องเจือจางแค่ไหน จะเสี่ยงอุดตันตามท่อรึเปล่า?
2. อัตราการจ่ายน้ำยาอัตโนมัตินั้นน้อยมาก ขวดนึงนี่ใช้ได้นานจนลืม คิดว่าซื้อของที่เขาออกแบบมาโดยเฉพาะไปเลยดีกว่า
3. พอเคยใช้น้ำยาแล้ว การถูแบบน้ำเปล่าความมันรู้สึกที่พื้นมันแปลกๆ สรุปว่าขาดไม่ได้แฮะ
Features ของ Roborock Dyad Pro
แน่นอนว่าทุกนวัตกรรมใหม่มักจะขายความสะดวกที่มากกว่า และไม้ถูพื้นดูดฝุ่นตัวนี้ก็ขายความสะดวกในการทำความสะอาดที่คุณแทบไม่ต้องไปดูแลมันเลย เรามาลงดีเทลในมุมมองเรากันว่าเป็นยังไง?
ตัวจบพื้นสะอาด
ด้วยฟังก์ชันดูด+ถูแบบ Wet & Dry ที่นำนวัตกรรมพัฒนาจนถึงระดับสูง ถ้าเกิดสิ่งนั้นขนาดสามารถถูกดูดเข้าท่อได้ Roborock Dyad Pro จะสามารถทำความสะอาดได้ง่ายๆ แปรงปั่นก็สามารถดึงคราบสกปรกทั่วไปขึ้นมาได้ง่ายๆ และยังมีผสมน้ำยาถูพื้นให้ทีละน้อยแบบคำนวนอัตโนมัติ ให้ฆ่าเชื้อโรคและได้พื้นสภาพใหม่เอี่ยมที่สุด
แม้บ้านเราใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ทำงานอัตโนมัติทุกวันอยู่แล้ว แต่การมี Roborock Dyad Pro นี้ก็ยังช่วยเสริมการทำความสะอาดเฉพาะจุดหรือเมื่อคุณอยากถูเองส่วนไหน ก็หยิบไม้ไปทำง่ายๆ เลย แม้แต่พื้นนอกบ้านถ้าไม่ใช่พื้นขรุขระก็ง่ายและสะดวกด้วยฟังก์ชันไร้สาย และการล้างไม้อัตโนมัติก็เป็นอะไรที่ชอบมากๆ เลย
ระบบแปรงโรลเลอร์คู่ (Double Roller Brushes)
ช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิ์ภาพสูง ช่วยกันปั่นตะกรุยพื้น เหมือนเอาผ้าไปขัด ทำให้สะอาดหมดจรดรวดเร็ว ผ่านแรงดูดถึง แรงดูด 17,000 Pa (หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นท็อปสุดตอนนี้ยังมีแรงดูดแค่ 5,100 Pa และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไปก็ใช้แรงดูดเพียง 1,800 Pa) ทำให้การไถง่ายๆ แบบไม่ต้องออกแรงอะไรเลย พื้นก็สะอาดเอี่ยม
ทำความสะอาดหัวแปรงและเป่าแห้งอัตโนมัติ (RevoBrush)
ทำความสะอาดหัวแปรงและเป่าแห้งอัตโนมัติ (RevoBrush)
‣ Self-Cleaning ซักแปรงอัตโนมัติเมื่อกลับจากการทำงานแล้วนำมาวางบนฐานชาร์จ แปรงจะถูกทำความสะอาดสะอาดได้ถึง 99% สิ่งสกปรกจะถูกขจัดออกให้หมดอย่างง่ายดาย ด้วยการถูขัดแบบหมุนสลับสองทิศทาง และช่วยลดการพันของเส้นผมได้ดีมากยิ่งขึ้น
* จากการทดลองใช้มา 2 สัปดาห์ แล้วถอดโรลเลอร์ไปล้าง พบว่าโรลเลอร์ยังสะอาดมากอยู่เลย คาดว่า 1-2 เดือนค่อยถอดไปล้างได้สบายๆ
‣ Self-Drying ฐานจะเป่าลมร้อนใส่แปรงจากด้านล่าง ให้แห้งไม่เหม็นอับ และคุณยังสามารถกําหนดระยะเวลา การเป่าแห้งอัตโนมัติได้อย่างง่ายดายในแอปฯ Roborock
* โหมด Default ตั้งค่ามาที่เป่าแบบเบาๆ ไปเรื่อยๆ 2 ชั่วโมง ข้อดีคือ เสียงมันจะเงียบมากจนเสียงแอร์ยังดังกว่า แล้วแปรงก็แห้งจริงๆ แต่ก็มีการเป่าแบบเร่งด่วนเช่นกัน พอลองใช้แล้วเราไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ ชอบแบบ 2 ชั่วโมงมากกว่า (ถ้าต้องการนานกว่านี้ก็ปรับได้)
ทำความสะอาดถึงขอบ Edge-to-Edge 1mm
ส่วนนี้เป็นข้อดีในเรื่องของการออกแบบให้โรลเลอร์ยาวออกมาจนเรียกว่าชิดขอบเลยก็ได้ ขอบหนาแค่ 1 มม. เรียกว่าทำความสะอาดได้ถึงขอบห้องทุกมุมเลย ไม่ต้องกังวล
ปรับแรงดูดอัตโนมัติเมื่อเจอความสกปรก (DirTect Smart Sensor)
เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งสกปรกอัจฉริยะ DirTect Smart Sensor เมื่อตรวจพบว่าพื้นสกปรกแค่ไหน ระบบจะปรับพลังการทําความสะอาด และการไหลของนํ้าโดยอัตโนมัติ (ด้วยการทำงานในโหมด AUTO) เพื่อการทําความสะอาดที่สมบูรณ์แบบอยู่เสมอ
ในการใช้งานจริงแม้จะสามารถปรับโหมดให้เล่นได้หลายโหมด แต่งานในบ้านทั้ง Indoor + Outdoor ที่เราลองมา 99% คือ ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย โหมด Auto จัดการได้หมด ระบบ DirTech มีแสดงผลบนจอยิ่งสนุกไปด้วยกับการไถให้มันกลายเป็นสีฟ้า
ระบบจ่ายนํ้ายาถูพื้นอัตโนมัติ
นํ้ายาทําความสะอาดจะถูกปั๊มเข้าไปในท่อนํ้าอัตโนมัติ และฉีดพ่นไปทั่วโรลเลอร์ โดยจะปรับเปลี่ยนปริมาตรตามคราบสกปรกบนพื้น ทําให้สะอาดหมดจดอยู่เสมอ สามารถใช้งานร่วมกับน้ำยาพื้นถูของ OMO Roborock ได้ที่มีคุณสมบัติสามารถฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ถึง 99.99% (โดยน้ำยาถูพื้น 1 แทงค์: สามารถใช้งานได้นานถึง 600 นาที/หรือประมาณ 10 ชม. หรือใช้เติมน้ำสะอาดได้ถึง 20 แทงค์ ทำให้คุณไม่ต้องคอยเติมน้ำยาถูพื้นเองบ่อยๆ)
ที่ชอบคือ การใช้งานจริงไม่เปลืองน้ำยาอย่างที่คิด แถมยังได้พื้นสะอาดแบบกริบๆ อันนี้ชอบเหมือนกัน
มีแอปเพิ่มความสามารถ
ยุคนี้อุปกรณ์ Smart ต่างๆ จะดีเฉพาะ Hardware ไม่ได้ Software ต้องดีด้วย
ตามที่หลายคนเคยใช้อุปกรณ์ฝั่ง Roborock หรือ Mi มาแล้วจะทราบว่า เป็นผู้นำระบบ software และแอป ออกแบบดีกว่าหลายแอปจากฝั่งอเมริกาด้วยซ้ำไป ช่วยให้การการควบคุมผ่านแอปง่ายและมีเสถียรภาพสูง สามารถตั้งระบบทําความสะอาดและอบเป่าแห้งให้เหมาะกับบ้านคุณที่สุด และรองรับการอัปเดตด้วยแอปฯ Roborock อย่างต่อเนื่องเพื่อให้การใช้งานในอนาคตได้ดีเต็มประสิทธิภาพอย่างดีที่สุด
Roborock เป็นอุปกรณ์ SmartHome ยี่ห้อหนึ่งที่มีการอัพเดทบ่อย ซึ่งดีมาก
คุยกับคุณเป็นภาษาไทย!
แม้เราจะฟังอังกฤษรู้เรื่อง แต่การพูดกับเราเป็นภาษาไทยได้นี่มันดีมากเลยนะ
ระบบการแจ้งเตือนด้วยเสียง สามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนเป็นภาษาไทยได้ ทำให้คุณไม่ต้องคอยเดาว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เช่น ถังนํ้าสะอาดไม่มีน้ำแล้ว โปรดเติมทันที, ถังเก็บน้ำเสียเต็มแล้ว โปรดเททันที, กําลังชาร์จ, โหมดอัจฉริยะ และการแจ้งเตือนอื่นๆ สามารถฟังการแจ้งเตือนด้วยเสียง โดยไม่จําเป็นต้องจําไอคอน หรือค้นหาข้อมูลจากคู่มือ
Design & Experience
ความง่ายของการใช้งาน
โหมดการทำความสะอาดที่หลากหลายมากขึ้น ประกอบด้วยโหมดอัจฉริยะ (AUTO Mode), โหมดสูงสุด (MAX Mode), โหมดดูดพื้นให้แห้ง (Floor Drying Mode), และโหมดอีโค่หรือโหมดประหยัดพลังงาน (ECO Mode) มีจอบอกความแรงบนตัวเครื่องคมชัดเข้าใจง่าย
หน้าจอ LED แจ้งสถานะการทำความสะอาด ช่วยให้คุณสามารถใช้งานและเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วยสัญลักษณ์บนหน้าจอ เช่น โหมดการทำความสะอาด, ปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ, ปริมาณความสกปรกพื้นที่ และการแจ้งเตือนต่างๆ
ใช้เสร็จแล้วทำไง? ก็แค่เอามาวางบนฐาน แล้วระบบจะทำงานตามนี้
1. ชาร์จไฟ ทันที
2. ฐานจะซักแปรงให้* ในไม่กี่วินาทีต่อมา (ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที)
3. ฐานจะอบลมร้อนให้* หลังซักแปรง (ใช้เวลาตั้งต้น 2 ชั่วโมง)
* สามารถปรับตั้งค่าให้ทำทีหลัง หรือซักละเอียดขึ้นได้ ตามที่ต้องการได้ในแอป
สิ่งที่ต้องทำเอง: คือการนำถังน้ำเสียไปเททิ้ง
ใช้งานได้ยาวนาน
ด้วย แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ที่ทรงประสิทธิภาพและมีความจุสูง สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องได้ถึง 43 นาที ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตร.ม. ต่อการชาร์จเต็ม ในตัวเครื่องมีถังเก็บน้ำดี 900 มล. ถังเก็บน้ำเสีย 770 มล. (ที่ถังเก็บน้ำเสียน้อยกว่าเพราะน้ำบางส่วนหายไปจากการถูพื้น)
ความง่ายคือ เมื่อต้องการจะพักตรงไหน ก็แค่ล็อกคอตั้ง มันก็สามารถวางโดดๆ ได้เลยไม่ต้องพิงกับอะไร แล้วไม่ล้มง่ายด้วย (ยกเว้นโดนชน) พอต้องการใช้งานอีกรอบ ก็ใช้เท้าเหยียบไว้เบาๆ แล้วดันคอให้ Unlock ได้เลย
บริเวณเก็บถังน้ำดี ออกแบบดี ใส มองเห็นง่ายว่าน้ำหมด แต่ถ้าลืมจริงๆ เครื่องยังบ่นให้คุณฟังเป็นภาษาไทยให้ไปเติมน้ำได้ด้วย
น้ำหนักเบาและเคลื่อนที่ง่าย
น้ำหนักตัวเครื่องรวม 4.8 กก. เวลาใช้งานไม่ต้องยกเพราะมีทั้งล้อและแปรงลูกกลิ้งที่สร้าง ระบบการฉุดดึง 2 ทิศทาง (Two Direction Traction) ด้วยแปรงโรลเลอร์คู่ที่หมุนคนละทิศทางขณะทำความสะอาด ทำให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทั้งช่วยให้คุณทำความสะอาดได้โดยไม่ต้องออกแรงมากให้เหนื่อย ไม่ว่าการถูพื้นแบบผลักไปข้างหน้าหรือแบบดึงถอยหลัง
ที่แปลกใจคือ บางพื้นเมื่อถูไปจนใกล้ถึงขอบ เครื่องมันเบรคเองด้วย งงมากว่ามันรู้ได้ยังไง แต่บางขอบก็ไม่เบรค สรุปว่า ก็ดีแบบงงๆ 555
ฐานเก็บอุปกรณ์
ฐานชาร์จ+อบลมร้อน มีพัดลมระบายอากาศอยู่ด้านหลัง และใต้ฐานมีที่เก็บสายไฟให้มิดชิดไม่เลอะรุงรัง
การใช้งานกับน้องหมาขนยาวและบทสรุป
น้องที่รีวิวขนยาวมีร่วงนิดหน่อยแต่ไม่เยอะ แต่มีวันที่อาบน้ำในบ้านขนเยอะหน่อย ก็ใช้ Roborock Dyad Pro จัดการก็สบายมาก ไม่มีพบปัญหาใดๆ
Roborock Dyad Pro ค่อนข้างจะเป็นไม้ถูพื้นอัจฉริยะ (เรียกแบบนี้ได้ไหม) ที่เราลองรีวิวแล้วก็ประทับใจมาก ขนาดว่าถ้าไม่มีก็คงจะลำบากในการทำความสะอาดโรงรถ ห้องน้ำ และข้างบ้าน พื้นในบ้านเวลาเดินไปเตะชามน้ำหมาหกก็ด้วย (ระหว่างทดลองใช้งานก็หกไป 2-3 รอบ) พอมีเครื่องนี้ก็ชีวิตดีขึ้นชัดเจน
จัดว่าเป็นการลงทุนที่ดี ราคาอาจจะค่อนข้างสูงแต่รับประกัน 3 ปี ก็คือซื้อแล้วคุ้ม ส่วนที่น่าปรับปรุงมีน้อยจุดมากๆ น่าจะเป็นโลโก้เล็กๆ ที่ปลายเครื่องดูไม่สวยไม่เข้ากับโลโก้ Roborock ตัวใหญ่กลางบอดี้
ด้านฟังก์ชั่นแทบจะไม่มีจุดให้ติ นอกนั้นพอใจเลย เอาคะแนนไป 9.5/10 ได้เลย
Roborock ก่อนจะถึงวันนี้
ก่อนจะถึงวันนี้ ต้นกำเนิด Roborock ที่คนไทยได้รู้จักครั้งแรกคือการพ่วงมาในแบรนด์พลิกโฉมสินค้าอัจฉริยะของโลกอย่าง Mi (Xiaomi) ซึ่งตอนนั้น Mi ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวแรกที่ใช้ระบบนำทางแบบ LiDAR ซึ่งประสบความสำเร็จมาก ซึ่งชื่อรุ่นนั้นคือ Roborock ผู้ซึ่งเป็นผู้ผลิตให้
หลังจากผลิตอีก 2-3 เจน Roborock ก็ได้แยกตัวออกมาเป็นแบรนด์ของตัวเอง แถมยังอัจฉริยะขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ จนกลายหนึ่งแบรนด์ผู้นำนวัตกรรมหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของโลกไปแล้ว