เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว…
เช้า ๆ เมื่อเยี่ยมหน้าออกไปนอกบ้าน แลเห็นหมอกขาว ๆ บาง ๆ ลอยอ้อยอิ่งอยู่รอบ ๆ ตัว ทั้งพื้นหญ้าเปียกชื้น มีหยดน้ำค้างเกาะพราว นับเป็นของวัญยามเช้าที่แสนพิเศษของฤดูหนาว
เฉกเช่นเดียวกับก้อนเมฆที่เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ล้วนเกิดจากไอน้ำที่อยู่ในสภาวะต่าง ๆ
- ไอน้ำเหล่านี้ หากกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ล่องลอยอยู่กลางอากาศ ให้แหงนหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้านั่นคือ เมฆ
- หากล่องลอยชิดใกล้กับผืนดิน และโอบอุ้มอยู่รอบตัวเรานั่นคือ หมอก
- หากกลั่นตัวเกาะบนผิวดิน ผืนหญ้าให้เห็นเป็นหยดน้ำพราวชัดนั่นคือ น้ำค้าง
ทำไมจึงเกิด เมฆ ?
ไอน้ำที่ระเหยจากแหล่งน้ำบนผิวโลก เมื่อล่องลอยอยู่กลางอากาศกระทบกับความเย็นบนท้องฟ้าสูง ไอน้ำบางส่วนจะกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้ำ และรวมตัวกันกลายเป็นก้อนเมฆ และจะคงอยู่สภาพเช่นนั้น จนกว่าหยดน้ำที่จับรวมตัวกันมีขนาดใหญ่จนอากาศไม่สามารถพยุงให้ลอยต่อไปได้อีก จึงตกลงมาในรูปของหยาดน้ำฟ้า นั่นคือ ฝน หิมะ หรือกระทั่งลูกเห็บ
ทำไมจึงเกิด หมอก ?
หมอกเกิดจากไอน้ำที่กระทบกับความเย็นเหนือพื้นดินในหน้าหนาว แล้วกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเล็ก ๆ รวมตัวกันกลายเป็นหมอกขาวบาง ๆ ล่องลอยอยู่เหนือผิวดิน
แต่ใช่ว่า ถึงฤดูหนาวแล้วเราจะได้เห็นหมอกทุกวี่ทุกวัน ต้องมีปัจจัยอื่นช่วยเกื้อหนุนเช่นกัน นั้นคือท้องฟ้านั้นต้องแจ่มใสไร้เมฆ และอากาศนิ่งไม่มีลมพัด
ท้องฟ้าที่แจ่มใสไร้เมฆ ช่วยให้พื้นดินที่สะสมความร้อนจากดวงอาทิตย์มาตลอดทั้งวัน เมื่อคายความร้อนออกมา จะไม่โดนเมฆสะท้อนความร้อนย้อนกลับลงมาอีก ทำให้พื้นดินคายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว เมื่อพื้นดินเย็นลง อากาศบริเวณเหนือพื้นดินพลอยเย็นลงไปด้วย เมื่อกาศเย็นลงจนถึงจุดน้ำค้าง ไอน้ำในอากาศจึงกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ หรือหมอกนั่นเอง ประสมกับอากาศที่นิ่ง ไม่มีลมพัด หมอกก็จะลอยอวลอยู่เช่นนั้น โดยไม่โดนลมพัดกระจายหายไปไหน กลายเป็นกลุ่มหมอกให้เราแลเห็นได้ชัด
ทำไมจึงเกิด น้ำค้าง ?
ช่วงหน้าหนาว อากาศใกล้พื้นดินที่ลดต่ำถึงจุดน้ำค้าง ทำให้ไอน้ำกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเกาะตามพื้นดิน ผิวหญ้า เป็นน้ำค้างให้เราเห็นชัดในยามเช้า
แต่ถ้าอุณหภูมิลดต่ำลงมาก ๆ จนถึงจุดเยือกแข็ง น้ำค้างที่เกาะแวววาวบนพื้นดินจะเปลี่ยนเป็นหยดน้ำแข็ง คำไทยเราเรียกว่าน้ำค้างแข็งขณะภาษาอังกฤษเรียกว่า Frozen Dew
แต่ใช่ว่าน้ำค้างเท่านั้นที่จับเป็นหยดน้ำแข็งที่จุดเยือกแข็ง หากไอน้ำที่ล่องลอยกลางอากาศ ก็กลายเป็นน้ำแข็งได้ทันทีโดยไม่ต้องกลั่นตัวเป็นหยดน้ำก่อน ทำให้เราเห็นเกล็ดน้ำแข็งวิบวับเกาะบนใบไม้ยอดหญ้าตามยอดดอย หรือภูสูง ๆ ที่อากาศหนาวจัด ปรากฏการณ์นี้ ไม่มีคำภาคกลางใช้เรียกโดยเฉพาะ มีแต่คำภาษาเหนือที่เรียกกันว่า เหมยขาบ และ คำอีสานที่เรียกว่า แม่คะนิ้ง ขณะที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Hoarfrost
เห็นมั้ยละว่าแค่น้ำที่ล่องลอยในอากาศ กระทบกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง สามารถแปลงกายเป็นอะไรได้สารพันทั้งเมฆ หมอก น้ำค้าง… กระทั่งกลายเป็นน้ำค้างแข็ง เหมยขาบ หรือแม่คะนิ้ง