ไทยสมายล์ หนุน 4.0 ส่งนวัตกรรมการเงินดิจิทัล QR CODE พร้อมประกาศความพร้อม e-Tax Invoice  สายการบินพาณิชย์ไทยรายแรก 13 -

 ไทยสมายล์ หนุน 4.0 ส่งนวัตกรรมการเงินดิจิทัล QR CODE พร้อมประกาศความพร้อม e-Tax Invoice  สายการบินพาณิชย์ไทยรายแรก

 ไทยสมายล์ หนุน 4.0 ส่งนวัตกรรมการเงินดิจิทัล QR CODE พร้อมประกาศความพร้อม e-Tax Invoice  สายการบินพาณิชย์ไทยรายแรก

สายการบินไทยสมายล์ ส่งสัญญาณความพร้อมเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเต็มตัว ด้วยการเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกในการชำระค่าตั๋วเครื่องบินไทยสมายล์ด้วย คิวอาร์โค้ด พร้อมประจำการที่ศูนย์บริการลูกค้าไทยสมายล์ทั้ง 13 จุดทั่วประเทศ หวังสนับสนุนนโยบายสังคมดิจิทัลให้เกิดขึ้นได้จริง ทั้งยังประกาศชัดพร้อมเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและสร้างความพึงพอใจสูงสุดด้วยใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถจัดการกับใบกำกับภาษีสำเร็จได้ด้วยตนเองในอนาคตอันใกล้นี้ โดยกรุยทางและนำร่องด้วยบริการใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งนอกจากจะมุ่งเน้นตอบสนองเทรนด์ธุรกรรมการเงินดิจิทัลที่กำลังเพิ่มความนิยมมากขึ้นแล้ว การนำนวัตกรรมการเงินออนไลน์มาใช้ยังช่วยในการบริหารภายในองค์กรให้คล่องตัวและสะท้อนความสมาร์ท (Smart) หนึ่งในแนวคิดหลักในการสร้างประสบการณ์ประทับใจ หรือ 3S ขององค์กรการบินพาณิชย์ระดับประเทศแห่งนี้

ชาริตา  ลีลายุทธ  รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์  เปิดเผยว่า ขณะนี้สายการบินไทยสมายล์เปิดให้บริการชำระค่าตั๋วเครื่องบินไทยสมายล์ด้วยคิวอาร์โค้ด (QR Code) ผ่านแอพพลิเคชั่น  K-PLUS  และโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารแล้ว ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บริการได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าไทยสมายล์ (Smile Service Center) 13  จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์บริการลูกค้าไทยสมายล์ สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดี,  สนามบินสุวรรณภูมิ, ศูนย์บริการลูกค้าไทยสมายล์ ณ เชียงราย, เชียงใหม่, อุบลราชธานี, ขอนแก่น, อุดรธานี, ภูเก็ต หาดใหญ่, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, นราธิวาส และPLAI  (รัฐสภา) ซึ่งเหตุผลของการขยายช่องทางการให้บริการชำระเงินมากขึ้น โดยเฉพาะรูปแบบดิจิทัลนั้น นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนประเทศไทย 4.0 ที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนแล้ว การเข้าสู่กระแสสังคมไร้เงินสด (Cashless) เริ่มมีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของทุกคนมากขึ้น ไทยสมายล์จึงต้องเดินหน้านโยบายการเงินดิจิทัลให้เท่าทัน เพื่อตอบสนองความหลากหลายและสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าคนสำคัญ

“โลกเปลี่ยนแล้ว เราจะอยู่นิ่งไม่ได้ เราต้องก้าวทันตามความต้องการของลูกค้า ต้องปรับเปลี่ยนได้เร็ว ซึ่งการให้บริการชำระด้วยคิวอาร์โค้ดเหมาะกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าในยุคนี้อย่างมาก เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง สะดวกสบายและเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกค้าที่มีความกังวลและไม่ชอบการใช้ก่อนจ่ายทีหลังด้วยบัตรเครดิต  ซึ่งหลังจากที่ทดสอบระบบให้ลูกค้าใช้บริการจ่ายด้วยคิวอาร์โค้ดตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ได้รับผลตอบรับที่ดี ลูกค้าเปลี่ยนใจจากการชำระด้วยเงินสดมาใช้วิธีใหม่นี้มากขึ้น และมองว่าช่องทางนี้นอกจากจะช่วยตอกย้ำการสร้างสังคมไร้เงินสด ทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายแล้ว ยังทำให้ระบบการจัดการการเงินและบัญชีขององค์กรมีความคล่องตัว มีควา

รวดเร็วในการทำงาน ซึ่งในอนาคตวางแผนที่จะนำคิวอาร์โค้ดมาปรับใช้กับทุกๆ ระบบการทำงานภายในองค์กรอีกด้วย”

รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์  กล่าวต่อว่า ไม่เพียงแต่การนำคิวอาร์โค้ดมาใช้เท่านั้น แต่ยังมองลึกไปถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มองค์กร (Corporate Customer) และกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ซึ่งแม้จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 20-30 % แต่ไทยสมายล์ก็เล็งเห็นถึงความจำเป็นของลูกค้ากลุ่มนี้ที่ต้องนำใบเสร็จรับเงินไปใช้อ้างอิง จึงเปิดให้บริการ e-Receipt ซึ่งลูกค้าสามารถกรอกข้อมูลส่วนตัวประกอบกับข้อมูลการเดินทางกับไทยสมายล์ผ่านเว็บไซต์ www.thaismileair.com โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการเพียง 2-3 นาทีเท่านั้นก็จะได้ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเซฟเก็บลงในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ หรือปริ้นท์ออกมาเพื่อนำไปใช้งานได้ทันที นับเป็นโปรแกรมการให้บริการที่ได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ผู้โดยสารได้รับเอกสารเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคอยอีกต่อไป ขณะเดียวกันก็ช่วยแก้ปัญหาความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลได้อีกด้วย โดยหลังจากทดลองใช้ e-Receipt มาได้ 1 เดือน พบว่ามีลูกค้าให้ความสนใจใช้บริการนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ไทยสมายล์ยังมีไฮไลท์สำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าธุรกรรมการเงินในรูปแบบดิจิทัลไปโดยสิ้นเชิง โดยมีความพร้อมจะเป็นสายการบินพาณิชย์รายแรกของไทยที่สร้างสรรค์ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) นำเสนอความสะดวกสบายและตอบสนองการใช้ชีวิตสุดสมาร์ทของผู้โดยสารอย่างเหนือความคาดหมาย ทั้งยังตอบสนองมิติใหม่ของระบบภาษี และเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรอีกด้วย โดยขณะนี้ลูกค้าสามารถกรอกข้อมูลเพื่อขอใบกำกับภาษีได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นไทยสมายล์จะจัดส่งเอกสารไปตามที่อยู่ที่ระบุไว้ โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินการทั้งหมดประมาณ 5-7 วันทำการ  เพียงแค่ช่วงเวลาเริ่มต้นในการใช้ระบบก็พบสถิติที่น่าพอใจ เพราะบริษัทฯ ได้ทำการส่งเอกสารใบกำกับภาษีฉบับสมบูรณ์มากกว่า 60-70 ใบต่อวันกลับไปยังลูกค้า ส่วนในอนาคตอันใกลนี้ไทยสมายล์กำลังประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐอย่างเข้มข้น เพื่อผลักดันให้ลูกค้าสามารถออกใบกำกับภาษีด้วยตนเอง (e-Tax invoice)

“การลงทุนด้านดิจิทัลนั้นคุ้มค่าและได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมสามารถเชื่อมต่อระบบงานทั้งหมดให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างดี ทั้งยังจัดการกับปัญหางานเอกสารของบุคลากร ลดปริมาณการใช้กระดาษ และทำให้ระบบการเงินและบัญชีขององค์กรมีความคล่องตัว ส่งผลให้ไทยสมายล์ต้องมาโฟกัสใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อปรับปรุงและพัฒนางานบริการต่อไปในอนาคต  อาทิ การนำ Chatbot มาใช้ในการตอบคำถาม, การปรับปรุง Mobile App ให้ตอบสนองการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันก็พร้อมผลักดัน Partner Strategic จับมือพันธมิตรสถาบันการเงินทั้งไทยและต่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้รูปแบบการเงินดิจิทัลเป็นเรื่องง่าย และส่งเสริมไลฟ์สไตล์สังคมไร้เงินสดได้อย่างเป็นรูปธรรม” ชาริตา กล่าวทิ้งท้าย

เว็บเราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ท่านได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถเลือกอนุญาตคุกกี้เองได้ที่ ตั้งค่าคุกกี้

Privacy Preferences

เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของเรา อาจมีการจัดเก็บหรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของท่านในรูปแบบของคุกกี้ ข้อมูลนี้อาจเป็นข้อมูลเกี่ยวกับท่าน การตั้งค่าของท่าน อุปกรณ์ของท่าน ซึ่งจะถูกใช้เพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้ตามที่ท่านต้องการ ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่ได้ระบุตัวตนของท่านโดยตรง แต่ช่วยให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์แบบเฉพาะสำหรับท่านได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยท่านสามารถเลือกปฏิเสธไม่ยอมรับให้คุกกี้บางประเภททำงานได้ ซึ่งท่านสามารถคลิกที่หัวข้อแต่ละประเภท เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานเว็บไซต์และบริการที่เราเสนอให้แก่ท่านได้ ข้อมูลเพิ่มเติม

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จําเป็นสําหรับการทํางานของเว็บไซต์ (Strictly necessary cookies)
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย ส่วนนี้จะไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้ที่ช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)

    เราใช้ Cookies ประเภทนี้เพื่อช่วยจดจำอุปกรณ์หรือบราวเซอร์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถจัดทำเนื้อหาได้อย่างเหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อท่านมากยิ่งขึ้น

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เชิงสถิติ (Analytics Cookies)

    เราใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดย Google ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ของเรา โดยข้อมูลนี้ประกอบไปด้วย หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าชม ลิงค์ที่ท่านคลิก ระยะเวลาที่ท่านเข้าชมในแต่ละหน้า โดยเราใช้ข้อมูลนี้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ และเพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    เราใช้คุกกี้ประเภทนี้จดจำการตั้งค่าของท่านในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ หน้าเว็บที่ท่านได้เยี่ยมชม และลิงค์ที่ท่านเยี่ยมชม เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเข้าชมและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์และยังปรับปรุงเว็บไซต์ รวมทั้งเนื้อหาใดๆ ซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าเว็บให้ตรงกับความสนใจของท่านมากยิ่งขึ้น และทดสอบความมีประสิทธิภาพของโฆษณาเรา และนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุดเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้ เรายังอาจแชร์ข้อมูลนี้ให้กับบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
    Cookies Details

บันทึกการตั้งค่า