เมอร์คคอร์ป จับมือ เคเอ็ม แลนด์ เดินหน้าโครงการ “MILLIONAIRE FAST-LANE II ONE KESAS” 13 -

เมอร์คคอร์ป จับมือ เคเอ็ม แลนด์ เดินหน้าโครงการ “MILLIONAIRE FAST-LANE II ONE KESAS”

ปูทางขยายโอกาสชวนผู้ประกอบการไทยลุยขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ

กลุ่มบริษัท เมอร์คคอร์ป  (MERC CORP) ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ นำโดย ดร.ภาณุ บุญสมบัติ กรรมการบริหาร ผนึกกำลัง กลุ่มบริษัท เคเอ็ม แลนด์ (KM LAND GROUP) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ MILLIONAIRE FASTLANE II หรือ ทางสายด่วนชวนเป็นเศรษฐีครั้งที่ 2 เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยรุกหน้าขยายธุรกิจให้เติบโตในต่างประเทศได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์ ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอี) เป็นประธานเปิดงาน และมี ดร.ภูมิพิชัย ธารดำรงค์ ที่ปรึกษากรรมการบริหารกลุ่มบริษัท เมอร์คคอร์ป  (MERC CORP) MR. ONG SHAU SOO CHIEF EXECUTIVE OFFICER KM LAND GROUP  นายอภิชาติ ประสิทธินฤทธิ์ ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการพิจารณาร่าง พรบ.ส่งเสริม SME และที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วยนายทนง ทองด้วง นายกสมาคมนักพัฒนาผู้ประกอบการภาคใต้ SEDA ร่วมกันแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยมี MR. WILLIAM KEE PA, คุณเบญจวรรณ เดชเอี่ยมสกุล, คุณสิทธิราช จันทศรี  และคุณณรงค์ โพธิวนากุล ร่วมงาน ณ ห้อง CONFERENCE HALL  GLOWFISH SATHORN ชั้น 2 อาคารสาธรธานี 2

ดร.ภูมิพิชัย ธารดำรงค์ ที่ปรึกษากรรมการบริหารกลุ่มบริษัท เมอร์คคอร์ป  กล่าวว่า ด้วย MERC CORP เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทพัฒนาที่ดินในทวีปเอเชีย และประเทศออสเตรเลีย ในด้านห้างสรรพสินค้า รูปแบบค้าปลีกและค้าส่ง รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาทางด้านการขายและการตลาด โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซีย ที่ในขณะนี้มีความต้องการสินค้าและบริการจากประเทศไทย ร้านอาหารไทย ในรูปแบบ STAND ALONE, MAGNET ZONING, SPECIALTY STORE,CONCEPT STORE และ TRADE CENTER เป็นต้น

การแข่งขันของธุรกิจไทยในปัจจุบันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจไทยที่จะแสวงหาลู่ทางการลงทุนใหม่ ๆ ในต่างประเทศ และปฏิเสธไม่ได้ว่าขณะนี้ต่างชาติมีความต้องการสินค้าไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศในแถบอาเซียน ด้วยเหตุนี้จึงจัดตั้งโครงการ MILLIONAIRE FAST-LANE ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลสินค้าจากผู้ประกอบการไทย ที่ต้องการนำสินค้าออกสู่ตลาดโลก ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ และสมาคมที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น สสว. สมาคมเอส เอ็ม อี สมาคมแฟรนส์ไชส์ ศูนย์รวมสินค้า OTOP และสมาคมหอการค้าไทย ในการเปิดช่องทางให้เข้าถึงข้อมูลของสมาชิกของแต่ละภาคส่วนเพื่อนำเสนอกิจกรรมและช่องทางการตลาดของโครงการฯ โดยล่าสุดได้ร่วมกับพันธมิตร KM LAND GROUP ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย ในการขยายธุรกิจไทยสู่ ONE KESAS ศูนย์ค้าส่งสินค้าไทยแห่งแรกในมาเลเซีย นับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของผู้ประกอบการไทย ที่จะขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ด้าน MR. ONG SHAU SOO CHIEF EXECUTIVE OFFICER KM LAND GROUP กล่าวว่า KM LAND GROUP บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันได้ดำเนินงานโครงการ ONE KESAS ซึ่งเริ่มจากความต้องการสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพื่อการค้าส่งสินค้าไทยโดยเฉพาะ เนื่องด้วยความนิยมสินค้าไทยในประเทศมาเลเซีย
มีสัดส่วนที่สูงขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทอาหารแห้ง ขนมอบกรอบ เครื่องปรุงรส สินค้าหัตถกรรม สินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สปาที่ผลิตจากสมุนไพรไทย รวมถึงสินค้าแฟชั่น เป็นต้น เรียกได้ว่า ONE KESAS เป็นเสมือนโชว์รูมขนาดใหญ่สำหรับสินค้าไทยอย่างถาวรและเต็มรูปแบบ รองรับด้วยร้านค้ามากกว่า 200 ร้านค้า นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนและจัดการด้านการตลาดทั้งทางออนไลน์ และ ออฟไลน์ พร้อมทั้งการจัดการด้านงานขาย ตลอดจนการจัดหาตัวแทนจัดจำหน่าย อีกด้วย

“ประเทศมาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกอาเซียนที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นตลาดที่สินค้าไทยมีศักยภาพสูง ด้วยมูลค่าส่งออกของไทยไปมาเลเซียที่เพิ่มขึ้นจาก 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2552 เป็น 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2556 หรือขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 11 ต่อปี ส่งผลให้ปัจจุบันมาเลเซียก้าวขึ้นเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 ของไทยในอาเซียน และเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 5 ของไทยในโลก ขณะที่การค้าระหว่างไทยและมาเลเซียยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในระยะถัดไป เนื่องจากเศรษฐกิจมาเลเซียมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดย EIU คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.8 ในปี 2556 เป็นเฉลี่ยร้อยละ 5.4 ต่อปี ในช่วงปี 2557-2561 ซึ่งจะเกื้อหนุนกำลังซื้อของชาวมาเลเซียที่มีจำนวนราว 30 ล้านคน โดยมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 จาก 10,650 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2556 เป็น 16,070 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าผู้ประกอบการไทยจะสร้างรายได้มหาศาลจากประเทศศักยภาพได้อย่างแน่นอน”

คุณอภิชาติ ประสิทธิ์นฤทธิ์ ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการพิจารณาร่าง พรบ.ส่งเสริม SME และ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า “โครงการ MILLIONAIRE FAST-LANE II เป็นโครงการที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทย มีส่วนช่วยผลักดันให้พัฒนาศักยภาพของธุรกิจตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดนำไปสู่การส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลกได้สำเร็จ ด้านการพัฒนาธุรกิจ SME ต้องเข้าใจรูปแบบของปัญหาและเน้นกระบวนการกระจายความสนับสนุนในแนวกว้าง โดยประเด็นของปัญหาที่เป็นอุปสรรคของ SMEs โดยหลัก ๆ จะมีในเรื่องของการเข้าถึงข้อมูล BIG DATA ที่ช่วยในการตัดสินใจ และ จัดการธุรกิจ การเข้าถึงแหล่งทุนทั้งในด้านขั้นตอน กระบวนการพิจารณา และหลักทรัพย์ตลอดจนการเข้าถึงแหล่งความรู้ และความเข้าใจในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม รวมถึงเศรษฐกิจการค้าจากผลของ INTERNET OF THINGS (IOT)”

“สำหรับบริษัท SMEs ในไทย ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยปีละ 7-9% และจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจในไทย แบ่งเป็น SMEs ประมาณ 2 ล้านราย และกลุ่มขับเคลื่อน GDP หรือธุรกิจรายใหญ่ ประมาณ 2,000 ราย นอกจากนี้ได้รองรับการจ้างงานประมาณ 70% การผลิตของ SMEs ส่วนใหญ่ขายในประเทศ 70% ส่งออก 30%                 ซึ่งปัจจุบันมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ด้านการส่งเสริม SMES HIGH GROWTH SECTOR เพื่อสร้างการเติบโตด้วยการสนับสนุนระหว่างภาครัฐและเอกชน อาทิ R&D, LOAN INNOVATION GRANTS, BUSINESS ANGEL FINANCE & VENTURE FINANCE และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPOs) รวมถึงการสนับสนุนการส่งออก เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญต่อกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในแนวโน้มกระแสโลก (GLOBAL MEGA TREND SMEs)”

“ด้านนวัตกรรมสมัยใหม่สอดคล้องกับแนวคิดสีเขียว นวัตกรรมที่ดูแลสิ่งแวดล้อม (SMART IS THE NEW GREEN) นวัตกรรมสู่ความเป็นศูนย์ และส่งเสริมธุรกิจที่พัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะ SMEs ที่พัฒนาสินค้าและบริการที่เป็นปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงปัจจัยที่ส่งเสริมสุข”

ส่วน คุณทนง ทองด้วง นายกสมาคมนักพัฒนาผู้ประกอบการภาคใต้ SEDA กล่าวเสริมว่า “ทางสมาคมมีความต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความสามารถในการทำธุรกิจทุกด้าน เพิ่มศักยภาพให้เกิดเข้มแข็งทางธุรกิจด้วยตนเองได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการรวมกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ พัฒนาศักยภาพกลุ่มธุรกิจไทย และสร้างโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนในกลุ่ม AEC และตลาดการค้าระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นการจัดอบรมหลักสูตร การสร้างโมเดลธุรกิจของตนเองโดยใช้แม่แบบ BUSINESS MODEL CANVAS-BMC การหาช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น”

เว็บเราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ท่านได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถเลือกอนุญาตคุกกี้เองได้ที่ ตั้งค่าคุกกี้

Privacy Preferences

เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของเรา อาจมีการจัดเก็บหรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของท่านในรูปแบบของคุกกี้ ข้อมูลนี้อาจเป็นข้อมูลเกี่ยวกับท่าน การตั้งค่าของท่าน อุปกรณ์ของท่าน ซึ่งจะถูกใช้เพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้ตามที่ท่านต้องการ ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่ได้ระบุตัวตนของท่านโดยตรง แต่ช่วยให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์แบบเฉพาะสำหรับท่านได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยท่านสามารถเลือกปฏิเสธไม่ยอมรับให้คุกกี้บางประเภททำงานได้ ซึ่งท่านสามารถคลิกที่หัวข้อแต่ละประเภท เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานเว็บไซต์และบริการที่เราเสนอให้แก่ท่านได้ ข้อมูลเพิ่มเติม

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จําเป็นสําหรับการทํางานของเว็บไซต์ (Strictly necessary cookies)
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย ส่วนนี้จะไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้ที่ช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)

    เราใช้ Cookies ประเภทนี้เพื่อช่วยจดจำอุปกรณ์หรือบราวเซอร์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถจัดทำเนื้อหาได้อย่างเหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อท่านมากยิ่งขึ้น

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เชิงสถิติ (Analytics Cookies)

    เราใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดย Google ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ของเรา โดยข้อมูลนี้ประกอบไปด้วย หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าชม ลิงค์ที่ท่านคลิก ระยะเวลาที่ท่านเข้าชมในแต่ละหน้า โดยเราใช้ข้อมูลนี้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ และเพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    เราใช้คุกกี้ประเภทนี้จดจำการตั้งค่าของท่านในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ หน้าเว็บที่ท่านได้เยี่ยมชม และลิงค์ที่ท่านเยี่ยมชม เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเข้าชมและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์และยังปรับปรุงเว็บไซต์ รวมทั้งเนื้อหาใดๆ ซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าเว็บให้ตรงกับความสนใจของท่านมากยิ่งขึ้น และทดสอบความมีประสิทธิภาพของโฆษณาเรา และนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุดเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้ เรายังอาจแชร์ข้อมูลนี้ให้กับบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
    Cookies Details

บันทึกการตั้งค่า