ถ้าใครติดตามผลงานของ คุณสุธี คุณาวิชยานนท์” มาตลอดคงรู้กันดีถึงแนวทางการทำงานของเขาที่มักเปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในผลงานศิลปะทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น เกิดการตั้งคำถามหลังได้ดูงานหรือมีปฎิกิริยาโต้ตอบกับชิ้นงานศิลปะโดยตรงเพื่อให้ผลงานชิ้นนั้นสมบูรณ์ ตัวอย่างผลงานที่เห็นได้ชัด “โหยสยาม” ไทยประดิษฐ์ และผลงานล่าสุดภายใต้ชื่อ “ลอย” ที่ผู้ชมจะไม่ได้เพียงสัมผัสผลงานแต่การดู และตีความจากสิ่งที่เห็นเท่านั้น แต่งานประติมากรรมขนาเท่าคนจริงทั้ง 3 ชิ้น ได้เชิญชวนให้ผู้ชมไปไกลกว่าโลกแห่งความจริงที่เป็นอยู่ คุณสุธีติดตั้งผลงานทั้ง 3 ชิ้นให้ลอยอยู่บนอากาศ แยกตัวจากพื้นโลกโดยเปรียบเทียบการรับรู้ที่ถูกปลดปล่อยอย่างเป็นอิสระผ่านการฝัน การนั่งสมาธิ การเสพติดสุราและยาเสพติด จนเกิดคำถามกับผู้ชมว่างานประติมากรรมที่ลอยอยู่นี้เป็นจินตนาการ เป็นความจริงหรือเป็นสิ่งลวงตากันแน่
ถ้าดูผิวเผิน ประติมากรรมทั้ง 3 ชิ้นนี้อาจดูแปลกแยกจากบริบทแวดล้อม ด้วยสถานที่ในการตืดตั้งชิ้นงานที่อยู่บนอากาศ ซึ่งเป็นที่ๆคนไม่ได้คุ้นเคยสักเท่าไร ทว่าความสนใจที่เกิดขึ้นกลับอยู่ที่ศิลปินที่ทำให้ผลงานศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่และสามารถตอบสนองกับแนวความคิดที่เขาต้องการสื่อสารได้ถึงแก่น ซึ่งเท่ากับว่างานประติมากรรมทั้งสามชิ้นสร้างปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่และกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่โดยปริยาย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าแสงที่เปล่งออกมาจากผลงานทั้งสามชิ้นจะทำให้เราปลดปล่อยสมาธิเพียงช่วงสั้นๆหรือทำให้เราสัมผัสถึงความสบายล่องลอย ไปจนถึงสร้างความงามสงบให้กับผู้ชมไม่ว่าเราจะไปปะทะกับผลงานในช่วงเวลาใดก็ตาม แต่เมื่อสิ่งที่เห็นมีน้ำหนักเพียงในโลกจินตนาการแล้ว ก็อาจเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าใจเราแอบไปยึดถือ ความว่างเปล่าที่เลื่อน “ลอย” ออกมาเท่านั้นเอง ขอบคุณบทความจาก Art4d Magazine