จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเขตคันโตของประเทศญี่ปุ่นผ่านมาร่วมหกเดือนได้แล้ว จนถึงวันนี้บ้านชั่วคราวเพื่อผู้ประสบภัยจากสึนามิก็ยังคงถุกสร้างอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ยังทำให้เราเห็นการเคลื่อนไหวของสถาปนิกและกลุ่มนักออกแบบญี่ปุ่นในหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นมีโปรเจ็คต์ที่ชื่อ “Ex-Container” โครงการก่อสร้างที่พักอาศัยให้กับผู้ประสบภัย ที่นำโดยสถาปนิกหนุ่ม Yasutaka Yoshimura รวมอยู่ด้วย http://www.ysmr.com
คำอธิบายใต้รูป : โมเดล Prototype โปรเจ็คต์ Ex-Container แบบ Maisonette
Yasutaka Yoshimura อธิบายว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศนำเข้าวัสดุก่อสร้าง แต่เนื่องด้วยค่าแรงที่เกิดขึ้นกว่าจะออกมาเป็นตัวอาคารนั้นสูงมาก จึงทำให้ราคาต่อหน่วยของงานก่อสร้างนั้นสูงกว่ามาตรฐานโลก ไอเดียของโปรเจ็คต์นี้จึงเริ่มจากคำถามที่ว่า จะเป็นไปได้มั๊ยที่จะนำเข้าไม่ใช่เพียงแค่วัสดุก่อสร้าง แต่นำเข้าห้องทั้งห้องหรือบ้านทั้งหลัง? ซึ่งการใช้ขนาดของคอนเทนเนอร์ส่งออกระหว่างประเทศมาเป็นเกณฑ์ในการก่อสร้างนั้นทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้มาก และสิ่งที่น่าสนใจมากๆก็คือ ประเทศที่ถูกเลือกเป็นประเทศผลิต คือ ประเทศไทย โดนคอนเทนเนอร์รวมทั้งอินทีเรียทั้งหมดถูกสร้างขึ่นในประเทศไทย แล้วส่งไปที่ประเทศญี่ปุ่นทางเรือเพื่อนำไปประกอบไซต์ใน Yokohama เมืองท่าใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
Yasutaka Yoshimura ได้ให้สัมภาษณ์กับ volunteerjapan องค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นหลังเหตุการณ์สินามึ 3.11 อธิบายถึงข้อแตกต่างระหว่างบ้านชั่วคราวปกติที่ถูกสร้างขึ้นกับ ex-container ว่าปกติบ้านชั่วคราวที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้ประสบภัยนั้นมีองค์กรณ์ที่ชื่อว่า “prefab club” เป็นผู้สร้างมาตรฐานโดยบริษัทผู้ก่อสร้างใหญ่ๆจะมีสต็อคของชิ้นส่วนต่างๆเก็บไว้อยู่แล้ว เวลาสร้างก็จะนำสต็อคชิ้นส่วนเหล่านั้นไปที่ไซต์ โดยมีการสร้างชิ้นส่วนเพิ่มเติมไปด้วย แต่เนื่องด้วยเหตุการณ์สึนามิ 3.11 ทำให้ผู้สูญเสียที่อยู่อาศัยไปเป็นจำนวนมาก วัสดุจึงขาดตลาดและสต็อคที่นำมาประกอบไม่พอ ความคิดและวิธีใหม่ๆสำหรับการก่อสร้างบ้านชั่วคราวจึงเป็นที่ต้องการ โดยตามปกติบ้านชั่วคราวเหล่านั้นถูกออกแบบให้ใช้งานได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งต่างกับ Ex-Container เพราะเริ่มมาจากการคิดที่จะสร้างเพื่อการอยู่ถาวร สำหรับเป็น unit cottage โดยเรื่องงบประมาณของบ้านพักชั่วคราวและ Ex-Container นั้นอยู่ในงบทีเท่าๆกัน ซึ่ง Ex-Containerสามารถใช้ต่อเป็นที่อยู่ถาวร หรือนำมาดัดแปลง หรือแม้แต่นำไปรีไซเคิลใช้ต่อได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถประกอบมาได้จากโรงงาน ทำให้ใช้เวลาในการติดตั้งน้อย ประมาณ 1-2 วัน ในขณะที่บ้านชั่วคราวปกติใช้เวลาประกอบประมาณ 7 วัน เป็นการลดค่าใช่จ่ายในการติดตั้งอีกด้วย
คำอธิบายใต้รูป : ภายใน Prototype แบบใช้ Container แนวนอน
โปรเจ็คต์ Ex-Container มีโปรโตไทป์ 3 แบบ คือการใช้คอนเทนเนอร์แบบแนวนอน แนวตั้ง และแบบเว้นระนะระหว่าง 2 คอนเทนเนอร์แล้ววางหลังคาระหว่างสเปซ โดยโปรโตไทป์เหล่านี้ถูกนำมาแสดงในลักษณะของ Openhouse
เหตุการณ์สึนามิ 3.11 ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นและยังคงเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสถาปนิกอีกด้วย สิ่งที่สำคัญและน่าสนใจของโปรเจ็คต์เหล่านี้ก็น่าจะอยู่ตรงที่ Yoshimura ให้ความสำใจไม่ใช่เพียงแค่รูปร่างน่าหน้าตา หรือ ตัวสเปซ แต่ให้ความสนใจกับกระบวนหารผลิตและการขนส่ง รวมถึงวิธีการสร้างซึ่งน่าจะเป็นจุดๆหนึ่งของสถาปนิกในยุค “post 3.11” ต้องหันกลับมาคิดกัน ขอบคุณข้อมูลจาก Art4 d magazine
คำอธิบายใต้รูป : มุมมองภายนอกของ Bayside Marina Hotel เป็นแม่แบบ ต้นแบบของโปรเจ็คต์ ex-container