ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวในญี่ปุ่นให้ไปเที่ยวชินจูกุเป็นตัวเลือกที่แนะนำให้คุณ! ชินจูกุเป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ในเขตปกครองของจังหวัดอินดู แต่มีความสวยงามที่เหนือกว่าคาดไว้ คุณจะไม่พลาด 7 เรื่องห้ามพลาดถ้าไปเที่ยวชินจูกุ ซึ่งเราจะมีเทคนิคเที่ยวญี่ปุ่นแบบฟรีๆ ให้คุณได้ลองออกไปเที่ยวกัน!
หนึ่งในเมืองที่มีสีสันมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น “ชินจูกุ” ด้วยการเดินทางมาถึงได้อย่างง่ายดาย ทำให้ในแต่ละวันมีทั้งนักเรียน คนทำงาน และนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันที่นี่มายมายค่ะ นอกจานี้ที่ชินจูกุยังมีวัฒนธรรมหลายอย่างที่มาผสมผสานกัน ทำให้มีอะไรสนุกๆให้เราทำหลายอย่างเลยล่ะค่ะ
วันนี้จะแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักกับ7เรื่องที่ควรทำ ถ้าได้มาชินจูกุกันนะคะ
1.ชมทิวทัศน์ของโตเกียวแบบไม่ต้องเสียตังค์
เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างนึงของชินจูกุ “โตเกียวโทะโจ(ศาลาว่าการเมืองโตเกียว)” ตึกที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร มีความสูงกว่า 200 เมตร แห่งนี้ ที่ชั้น 45 มีห้องชมวิวอยู่ค่ะ ที่นี่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาดื่มด่ำกับวิว 360 องศาของโตเกียวได้ฟรีๆเลยนะคะ ในห้องชมวิวนี้มี Café และร้านขายของที่ระลึกด้วย สามารถนั่งทานข้าวไปชมวิวไปได้เลยค่ะ
2.รื่นรมย์กับ4ฤดูที่ชินจูกุเกียวเอ็น
ชินจูกุที่เต็มไปด้วยตึกสูงๆและชอปปิ้งสตรีทมากมายนั้น แต่จะมีใครรู้บ้างว่าในชินจูกุเองมีที่ให้เราสามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้ด้วยนะคะ ที่นั่นก็คือ “ชินจูกุเกียวเอ็น” ที่นี่มีพรรณไม้นานาชนิดที่ให้ความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ทำให้ที่นี่สวยงามในทุกฤดูเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระสวยๆในฤดูใบไม้ผลิ หญ้าเขียวๆในฤดูร้อน ใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง หิมะและใบไม้ที่ร่วงหล่นในฤดูหนาว
ลองมาแวะเที่ยวและพักผ่อนที่นี่กันดูนะคะ จะได้เห็นว่าความงามในแต่ละฤดูของประเทศญี่ปุ่นนั้นสวยงามเพียงไร
3.เอนจอยกับการชอปปิ้ง
ถ้าพูดถึง “เครื่องใช้ไฟฟ้า” ของญี่ปุ่น ทุกคนรู้ดีว่าคุณภาพนั้นดีงามแค่ไหน และการได้มาซื้อที่ญี่ปุ่นเลยยังถูกกว่าไปซื้อในต่างประเทศ ทำให้เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แน่นอนค่ะที่ชินจูกุก็มีแหล่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายที่ๆอยู่ใกล้ๆสถานี และร้านส่วนใหญ่มักจะมีบริการคืนภาษี รวมถึงให้บริการเป็นภาษาต่างประเทศได้ด้วย มาซื้อของได้อย่างสบายใจเลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้า ห้างแฟชั่น ร้านขายของมากมาย อยากได้ของอะไรแบบไหนมาที่ชินจูกิแล้วไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ หรือถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้ออะไรดี แต่มาเดินเล่นเฉยๆก็สนุกแล้วค่ะ
4.สนุกสนานไปกับถนนบันเทิงอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น
ชินจูกุแหล่งรวมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น “คาบุกิโจ” ที่นี่มีอิซากายะ (ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น) เรียงรายอยู่มากมาย ทุกค่ำคืนผู้คนจากที่ต่างๆจะมารวมตัวกันอย่างคึกคักที่นี่ ไม่เพียงแค่คนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย ทำให้หลายๆร้านมีการให้บริการเป็นภาษาต่างประเทศด้วยนะคะ
เมื่อเร็วๆนี้มีตึกเปิดใหม่ชื่อ “ชินจูกุโทโฮบิรุ” ที่ให้เราสามารถมาเที่ยวในตอนกลางวันได้ด้วย มีทั้งร้านอาหาร โรงภาพยนต์ และที่พักรวมกันอยู่ในที่เดียว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหม่ของคาบูกิโจเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมี Game Center, Batting Center (ที่ฝึกตีลูกเบสบอล) และยังมีที่สนุกๆอีกมากมายให้มาเที่ยวกันที่คาบูกิโจค่ะ
5.เพลิดเพลินไปกับสเปซที่ไม่เคยมีมาก่อน
หนึ่งในที่ท่องเที่ยวที่คนชอบมาเที่ยวมากๆแห่งหนึ่งในคาบูกิโจ “Robot Restaurant” ทุกๆคืนที่นี่จะมีโชว์แฟนซีที่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักท่องเที่ยวอย่างมาก เป็นโชว์ที่หาดูที่อื่นไม่ได้นอกกจากที่นี่ ลองมาเที่ยวดูนะคะ มั่นใจว่าเพื่อนๆต้องชอบอย่างแน่นอนเลยค่ะ
6.ไปดื่มกันที่อิซากายะย้อนยุค
เดินเพียง 5 นาทีจากประตูตะวันตกของสถานีชินจูกุ “โอโมอิเดะโยโคะโจ” ที่นี่ตกแต่งเป็นสไตล์ย้อนยุคให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นในสมัยโบราณ มีส่วนลดมากมายให้นักท่องเที่ยวและยังมีบริการเป็นภาษาต่างประเทศอีกด้วยค่ะ ฟินกับบรรยากาศย้อนยุคไปด้วยทานอาหารไปด้วย และยังมีร้านที่ขาย “จินมิ” เมนูอาหารที่แปลกนิดนึงที่รสชาติไม่เหมือนใครด้วยนะคะ ลองมาเพลิดเพลินไปกับวันวานในอดีตและทานของอร่อยไปด้วยกันนะคะ
7.มาสัมผัสญี่ปุ่นในแบบเรโทรที่ถนนชินจูกุโกลเด้น
“ถนนชินจูกุโกลเด้น” เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านอาหารอยู่ที่ชินจูกุคาบุกิโจ เป็นสถานที่ที่ให้บรรยากาศย้อนยุคแบบเรโทรในคาบุกิโจ เสมือนว่าเราได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตจริงๆ มีร้านอิชากายะที่มีอยู่ตั้งแต่ในยุคก่อนและบาร์ที่ให้นักท่องเที่ยวไม่เสียชาร์จที่นั่งด้วย ส่วนใหญ่ร้านที่นี่สามารถสื่อสารด้วย ภาษาอังกฤษได้ ไปเที่ยวได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
สุดท้ายนี้
เพราะชินจูกุเป็นที่ที่ผู้คนมากหน้าหลายตามารวมตัวกัน ถึงได้มีเรื่องสนุกๆที่ต่างกันมากมายให้เราได้ลองทำ เสน่ห์ของชินจูกุนั้นเรียกว่าบรรยายได้ไม่หมดเลยทีเดียว ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าต้องลองมาดูให้เห็นด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ อย่าลืมมาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ
ขอบคุณเนื้อหาต้นฉบับจาก MATCHA Japanese Travel Magazine (iURBAN’s Content Partner)
