วันนี้จะเป็นเนื้อหาที่ต่อจากเมื่อวานค่ะ ที่พูดถึงวิธีการดับร้อนแบบ”ภูมิปัญญาไทย” ด้วยการใช้ “ผ้าขาวม้า” ยูนิฟอร์มชาวบ้านที่ฮิตตั้งแต่สมัยเชียงแสน ลักษณะเป็นผ้าสี่เหลี่ยมทอสลับสีจนเป็นลายหมากรุกหรือลายทาง มีตั้งแต่ผ้าฝ้ายถึงผ้าไหมชั้นดี ใช้ประโยชน์หลายข้อ เช่น เวลาร้อนๆ คุณผู้ชายเค้าจะนู้ดท่อนบนแล้วเอาผ้าขาวม้ามาพาดไหล่ โพกหัวกันเหงื่อหยด คาดเอว ใช้เป็นผ้าเช็ดตัว ส่วนสาวๆก็จะใช้เป็นผ้าถุง ยามอยู่บ้าน และใส่อาบน้ำในคลองเพื่อเล่นกับเพื่อนๆ “ตีโป่ง” ภูมิปัญญาการลอยตัวในน้ำแบบซื่อๆ แต่ได้ผลดี พอพๆกับห่วงยาง แถมฝึกไม่ยาก เริ่มจากพุ้ยอากาศเข้าไปในผ้า เมื่ออยู่ใต้น้ำจนผ้าถุงโป่งขึ้นรอบตัวแล้วรวบชายผ้าให้แน่น แค่นี้ก็ได้ลอบตุ๊บป่องแล้ว ความนิยมและความเก๋ไก็ยังไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้
ปัจจุบันเหล่าดีไซน์เนอร์ในแววงการต่างๆก็นิยม หยิบยก “ผ้าขาวม้า” มาใช้เป็นไอเดียและพัฒนาในการออกแบบ อย่าง ผศ.รจนา ชื่นศิริกุลชัย และนักศึกษา ได้รังสรรค์ผลงานจากเส้นใย…..กลายเป็น…“ผ้าขาวม้าเลิศหล้านภาลัย” ให้กับทางจังหวัดอำนาจเจริญ ในงานโครงการ “ค้ำคูณผ้าขาวม้า ภูมิปัญญาสู่สากล” จัดแสดงแฟชั่น พร้อมทั้งเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากเส้นใย…..กลายเป็นผ้า “ผ้าขาวม้าเลิศหล้านภาลัย” นำเสนอคอลเลคชั่นสำหรับกลุ่มวัยรุ่น เน้นความเรียบโก้ ร่วมสมัยใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ตัดเย็บประณีต สีสันสดใส นำผ้าหลากหลายแบบมารวมกัน จากแรงบัลดาลใจจากความระยิบระยับและสว่างไสวของผ้าขาวม้า และคาดว่าเราจะเห็น “ผ้าขาวม้า” ในรูปแบบอื่นๆอีกมายมาย ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพวกเราชาวไทย ว่าเรายังจะหยิบยกประเด็น “ความเป็นไทย”มาใช้เป็นไอเดีย พัฒนา ต่อยอด และเพื่อที่จะรักษาความเป็นภูมิปัญญาแบบไทยได้มากน้อยเพียงใด ยังไงก็ขอฝากเป็นแง่คิดสำหรับเราชาวไทยด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.rmutl.ac.th/home และเนื้อหาบางตอนจาก SIEW LAMINATION CO.LTD. free magazine