ในปัจจุบัน แนวคิดการนำเอาต้นไม้มาเป็นส่วนของสถาปัตยกรรม นับวันก็จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ไม่ว่าจะเป็นการตลาด หรือ รักสิ่งแวดล้อมจริงๆ ก็เป็นสิ่งดี อย่างน้อยก็ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองได้สัมผัสสีเขียวของต้นไม้จริงๆมากขึ้น มีต้นไม้ที่ไหนก็ช่วยให้สดชื่น จิตใจสบาย และเย็นลง Living wallsในปัจจุบันจึงไม่ได้มีแต่ใส่ต้นไม้สีเขียว แต่ยังต้องมีความงดงาม เรียกว่าเป็น art form ไปด้วยในตัว ศิลปินผู้บุกเบิกคนหนึ่งในการทำสวนแนวตั้ง ก็คือ Patrick Blanc เขาใช้เวลศึกษาและสังเกตต้นไม้ในป่าว่าทำไมจึงสามารถเติบโตในแนวตั้งได้โดยปราศจากดิน และหลังจากนั้นก็พัฒนาระบบ และวิธี ที่จะปลูกต้นไม้บนผนังในแนวที่เป็นศิลปะ โดยระบบที่ว่านี้จะต้องมีน้ำหนักที่เบา และต้องการการดูแลเพียงน้อยนิด เขาพบว่า ผนังทุกชนิดสามารถรับน้ำหนักของสวนแนวตั้งได้อย่างสบายๆด้วยน้ำหนักต่อพื้นที่เพียง 30 กก. หรือน้อยกว่านั้น ต่อตารางเมตร
เราจะไปดูแนวคิด ของ living wall หรือสวนแนวตั้ง และ Sky farm ว่ามีที่ไหนบ้างที่มีความโดดเด่นเป็นที่พูดถึงของชาวโลกกันบ้าง ของไทยก็มีด้วยนะ ลองทายซิว่าที่ไหน ไปดูกันเลยค่ะ
Living Walls, Netherlands
อาคารที่เป็นตัวอย่างที่ดี ที่เราจะสามารถเปลี่ยนผนังภายนอกที่ดูธรรมดาๆพื้นๆ น่าเบื่อ ( ไม่มีใครอยากถ่ายรูปแล้วเอาไปโพสต์ หรือพูดถึงอย่างแน่นอน) ให้กลายเป็น ผนังที่มีชีวิต และลมหายใจ ต้นไม้ที่เห็นเหล่านี้ เติบโตอยู่ในชั้นบางๆของวัสดุที่ทำจากขนแกะ แทนที่จะเป็นดิน ใช้น้ำฝน ที่ตกลงมา กักเก็บไว้ และสูบขึ้นมาให้ความชุ่มชื้นกับวัสดุที่ทำจากขนแกะนี้ เพื่อหล่อเลี้ยงรากของต้นไม้
Musee du quai Branly, Paris
ผนังด้านนอกของพิพิธภัณฑ์ สวยงาม สดชื่น อยากไปยืนสูดอ๊อกซิเจนใกล้ๆ ^ ^
Sky Farm, Las Vegas
โปรเจ็ค sky farm ที่มีมูลค่าสูงถึง $200 ล้าน แห่งนี้ อยู่ที่ Las Vegas จะเป็นสวนแนวตั้งขนาด 30 ชั้น แห่งแรกของโลก อาคารแห่งนี้ จะมีพื้นที่เพาะปลูกภายในอาคารมากถึง 30ชั้น และคาดว่าสวนแนวตั้งแห่งนี้จะสามารถเลี้ยงดูประชากร ได้มากถึง 72,000 คนต่อปี มีพืชพันธุ์มากถึง100 ชนิด คาดว่าจะทำเงินได้สูงถึง $40 ล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละปี จากตลาดนักท่องเที่ยว ที่ต้องมาเที่ยวชมสวนแนวตั้งมหึมาแห่งนี้ ที่ไม่มีที่ใดในโลกเหมือน ขณะนี้ sky farm ยังอยู่ในขั้นแบบร่าง แต่ถ้าเมื่อไรได้ลงมือก่อสร้าง และเสร็จสมบูรณ์ก็คงเป็นสถาปัตยกรรมที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั่วโลก และมีผู้คนช่วยกันประชาสัมพันธ์มากมาย เพราะมัน เข้ากับยุคสมัยที่ผู้คนให้ความสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม และการเพาะปลูกในเมืองอย่างมาก
Parabienta Living Wall, Japan
ระบบ living wallอันนี้ ผลิตและทำการตลาดโดย บริษัทญี่ปุ่น 2 แห่ง มันมีน้ำหนักที่เบา ราคาถูก และใช้ประโยชน์ได้จริง ระบบ living wallอันนี้ มีชื่อว่า ‘Parabienta’ ราคาของมันอยู่ที่ประมาณ $60ดอลล่าร์ ต่อตารางฟุต
ระบบผนัง ‘Parabienta’, ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ จะช่วยทำให้อาคารเย็นลง จากความเย็นตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีต้นไม้ ก็เหมือนกับเวลาที่เราอยู่ในร่มนั่นเอง
BHV Homme, Paris
สวนแนวตั้งที่โด่งดัง และเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก แห่งนี้ อยู่ที่ห้างสรรพสินค้ายอดนิยม ในกรุงปารีส BHV Homme มันช่วยเพิ่มความมีชีวิต ความสดชื่น ให้กับพื้นที่อย่างมาก
Pershing Hall Hotel, Paris
และกำแพงสวนแนวตั้งที่สวยงามแห่งนี้ อยู่ภายในสวนของโรงแรม Pershing Hall Hotel มีขนาดสูง 30 เมตร และมีพืชพันธุ์มากถึง 250 ชนิด..
CaixaForum, Madrid, Spain
สวนแนวตั้งอันนี้ อยู่ที่ พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ของกรุงแมดดริด และด้วยการเป็นพิพิธภัณฑ์ ก็เลยต้องเรียกแขกกันหน่อย ซึ่งก็ได้ผล CaixaForum อยู่ด้านหน้า เรียกความสนใจ เป็นเหมือนนวัตกรรม ที่เชื้อเชิญ ให้คนเดินเข้าพิพิธภัณฑ์ได้อย่างดี
Bangkok vertical gardens
และสวนแนวตั้งอันนี้ ก็จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลย นอกจาก สยามพารากอน ของเรา และ ดิ เอ็มโพเรียม
Guggenheim Museum, Bilbao, Spain
บริเวณด้าหน้าของ Guggenheim Art Museum สิ่งที่ผู้คนจะได้พบเห็นก็คือ สวนแนวตั้งรูปลูกสุนัขแสนน่ารัก 2 ตัว เต็มไปด้วยต้นไม้หลากสีสัน สวยงาม เรียกความสนใจของคนได้มากมาย สวนแนวตั้งลูกสุนัข 2 ตัวนี้ หรือ “plant puppy” มีขนาดสูง 43 ฟุต สร้างขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ ที่ ’90 ใช้เหล็กเป็นโครง และประกอบด้วยต้นไม้มากมาย ถ้าได้เห็นรายละเอียดแล้วจะยิ่งทึ่งในความละเอียดปราณีต เป็นผลงานของศิลปิน ที่ชื่อว่า Jeff Koons
ACROS Fukuoka Prefectural, Japan
อาคารที่มีสีเขียวเป็นองค์ประกอบ ที่เกิดขึ้นจริงแล้ว คงไม่มีที่ไหนเกิน ACROS ในเมือง Fukuoka ของประเทศญี่ปุ่น ที่เราเคยนำเสนอบทความ สนใจลองคลิกไปอ่านได้ ที่นี่ ..ตึกเขียวในฟูกูโอกะ
ที่มา : http://www.environmentalgraffiti.com/ecology/15-living-walls-vertical-gardens-sky-farms/1202?image=24