ตึกกระจกสูง 77 ชั้น ที่กำลังจะเป็นไอคอนแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ย่านธรุกิจสาธร ด้วยความสูงกว่า 310 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดกว่า 150,000 ตร.ม. ตึกกระจกระฟ้าแห่งนี้ประกอบด้วยช็อปปิ้งพล่าซ่า ร้านค้า ที่พักอาศัย 200 ยูนิต โรงแรม บาร์และร้านอาหารบนยอดตึกรวมถึงเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์สุด The Ritz-Carlton Residences ที่สนนราคาอยู่ที่ตารางเมตรละ 250,000 บาทเท่านั้นเอง PACE Development คือเจ้าของกโครงการ และ “ผู้กล้า” ที่อาจหาญเปิดตัวโปรเจ็คท์ยักษ์ท่ามกลางบรรยากาศเศรษฐกิจซบเซา เรียกว่าความเชื่อมั่นให้กลับมาอีกครั้ง
สิ่งที่เราสนใจจริงๆไม่ใช่ตัวเลขค่าก่อสร้างนับพันล้านหรือความสูงที่กำลังทำลายสถิติ (ไปเพื่ออะไร) แต่เป็นตัวงานสถาปัตยกรรมไอคอนของเมืองไทยแห่งแรกที่ออกแบบโดย Ole Scheeren จาก OMA เจ้าของผลงานอภิมหาโปรเจ็ตท์อาคาร CCTV ที่ปักกิ่ง สถาปนิกทำลายความแข็งทื่อของแท่งกระจกสี่เหลี่ยมด้วยการคว้านให้เป็นเกลียวรอบตึก ส่วนที่ถูกขุดออกไปดูเหมือนพิกเซลเล็กๆคือยูนิตกล่องกระจกที่ยื่นหดวางซ้อนกันไปมา ช่วนทอนสเกลอาคารขนากมหึมาจากตึกเสียดฟ้าให้ลงมาสู่พล่าซ่าเปิดโล่งชั้นล่างสุดของอาคาร ซึ่งประกอบพื้นที่สาธารณะ สวน และร้านค้าที่ผสมกลมกลืนกัน
แม้จะไม่ใช่คนไทยแต่ดูเหมือน Ole Scheeren ผู้ออกแบบจะรู้จักกับกรุงเทพมหานคร ดีพอสมควร จากที่เคยเป็นผู้จัดนิทรรศการ City On the Town ในกรุงเทพฯ เมื่อหลายปีก่อน น่าจับตามองอย่างยิ่งว่าทางสถาปนิกไทยจะมีท่าทีอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับโลกาภิวัตน์ทางสถาปัตยกรรม กฎหมายคร่ำครึที่ใช้กีดกันสถาปนิกต่างชาติจะถูกบังคับใช้อย่างสองมาตรฐาน (จนกลายเป็นมาตรฐานของบ้านเมืองเราไปแล้ว) หรือไม่เพราะคราวนี้มีดีกรีถึงดาราสถาปนิกระดับโลก หรือจะหันกลับมาทบทวนบทบาท อำนาจ หน้าที่ของสถาปนิกไทยในศตวรรษที่ 21 อีกครั้ง
ในที่สุดแล้ว “เมือง” ก็ยังคงต้องการสถาปัตยกรรมเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงตัวตนและวิถีชีวิตของคน ตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยอย่างอาคารใบหยก 2 ก็ล้มเหลวกับการทำหน้าที่ดังกล่าว กลายเป็นเพียงบิลบอร์ดขนาดยักษ์ให้ผู้ประกอบการที่ไม่มีด้านมิติทางด้านวัฒนธรรมใช้เป็นป้ายโฆษณา โดยหาได้สำเหนียกว่าไม่ว่ามันคือการสร้างทัศนะอุจาดให้เมืองซึ่งไม่เกิดผลดีต่อตัวแบรนด์อีกต่างหาก ดูจากรูปการณ์แล้ว เราคงอุ่นใจได้ว่าตึกมหานครที่กำลังผุดขึ้นคงไม่ไร้สิ้นไร้ตอกขนาดนั้น ไม่แน่การที่สถาปนิกดีไซน์ตึกให้เว้าๆแหว่งๆเหมือนโดนก็อตซิลล่าแทะแบบนี้ อาตเพราว่าไม่อยากให้ใครเอาสต๊กเกอร์มาติดก็เป็นได้ ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Wallpaper Magazine (Thai Edition) และรูปสวยๆจากhttp://www.maha-nakhon.com/gallery.php