เนื่องจากสภาพเหตุการณ์บ้านเมืองของเราอยู่ในสภาวะตึงเครียด จึงอาจจะทำให้หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในภาวะโรคเครียดจากการเมือง (Political Stress Syndrome) 1 ใน 4 ของประชากรเป็นอย่างน้อยในขณะนี้ มีปัญหาสุขภาพจิตจนเกิดอาการเครียด มาจากปัญหาความวุ่นวาย การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และความรุนแรงที่เกิดขึ้นทางสังคมและการเมือง โดยบุคคลที่มีความเสี่ยงกับปัญหาสุขภาพจิตชนิดนี้ได้แก่ กลุ่มนักการเมือง กลุ่มสนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย กลุ่มผู้ติดตาม กลุ่มผู้สนใจข่าวสารการเมือง และกลุ่มผู้มีปัญหาสุขภาพจิต
Political Stress Syndrome เป็นปฏิกิริยาของอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่มีความสนใจปัญหาทางการเมือง ติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด หรือเอนเอียงไปทางกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ลักษณะอาการของ Political Stress Syndrome
1.อาการทางกาย ได้แก่ อาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตึงบริเวณขมับ ต้นคอ หรือตามแขนขา นอนไม่หลับ หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือหลับแล้วตื่นกลางคืนไม่สามารถหลับต่อได้ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติทั้งที่อยู่ในสภาพปกติ หายใจไม่อิ่ม อึดอัดในช่องท้อง แน่นท้อง ปวดท้อง อึดอัดในช่องท้อง ชาตามร่างกาย
2.อาการทางใจ ได้แก่ อาการวิตกกังวล ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา หงุดหงิดง่าย โกรธ ฉุนเฉียว ก้าวร้าว เบื่อหน่าย ท้อแท้ หมดหวัง สิ้นหวัง รู้สึกไม่มีทางออก สมาธิไม่ดี ฟุ้งซ่านหรือหมกมุ่นมากเกินไป
3.ปัญหาพฤติกรรมและสัมพันธภาพกับผู้อื่น ได้แก่ การโต้เถียงกันกับผู้อื่น หรือแม้แต่บุคคลในครอบครัวโดยใช้อารมณ์ตั้งแต่ปานกลาง ถึงรุนแรง โดยไม่สามารถยับยั้งตนเองได้ มีความคิดที่จะตอบโต้โดยใช้กำลังในการเอาชนะ มีการลงมือทำร้ายร่างกายเพื่อตอบโต้ มีการเอาชนะทางความคิดกับคนที่เคยมีสัมพันธภาพที่ดีมาก่อนจนทำให้เกิดปัญหาด้านสัมพันธภาพอย่างรุนแรง
หากมีอาการเหล่านี้ในทั้ง 3 กลุ่มอาการ แนะนำให้ปฏิบัติ ดังนี้
1.หันเหความสนใจไปเรื่องอื่น
2.ลดความสำคัญของปัญหาลงมาชั่วขณะ ให้ความสำคัญกับเรื่องเร่งด่วน ตามหลักอื่น ๆ บ้าง
3.หาทางระบายออกโดยเลือกผู้ที่มีแนวคิดใกล้เคียงกัน
4.ออกกำลังกายและพักผ่อน
5.ฝึกวิชาผ่อนคลายตัวเอง เช่น ฝึกสติและสมาธิ ฝึกโยคะ ฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น การกำหนด ลมหายใจ
6.หันหาวิธีการที่ทำให้สงบ อาจจะใช้ศาสนามาช่วยขัดเกลาจิตใจ เพื่อปล่อยวาง
อาการจะหายไปได้เอง เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง หรือละความสนใจในเรื่องอื่นบ้าง หากมีอาการทั้งหมดเกินกว่า 1 สัปดาห์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาหรือจิตแพทย์