ไม่ได้ชวนดูละครนะครับ แต่เห็นเค้าฮิตกันจัง เลยขอมาเป็นชื่อเรื่องสักหน่อย กลับมาพบกันอีกครั้งครับ หลังจากเปิดตัวไปด้วยเรื่องพืชกินแมลง (Carnivorous Plants) โดยเลือกนำเสนอตัวที่ถูกใจเป็นพิเศษไป คราวนี้กลับมาพบกับพืชกินแมลงที่คงเป็นอันดับหนึ่งในใจหลายๆ คน และ เป็นที่นิยมกันมากเมื่อหลายปีก่อน หากมีใครถามว่า รู้จักพืชกินแมลงใดบ้าง คำตอบแรกที่หลายคนคิดในใจ ……………. ถูกต้องครับ “หม้อข้าวหม้อแกงลิง”
หม้อข้าวหม้อแกงลิง หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nepenthes Pitcher Plants หรือในชื่อแบบบ้านๆ floor floor หน่อยก็เรียกว่า Monkey Cups ตรงตัวกันเลยทีเดียวละครับ พืชชนิดนี้เป็นอีกหนึ่งประเภทที่อยากแนะนำสำหรับชาว iUrban ครับ เราสามารถเลี้ยงได้ในที่จำกัด แล้วยังช่วยทำให้บ้านดูสดชื่น เป็นธรรมชาติ แถมด้วยประโยชน์พิเศษที่อาจช่วยให้บ้านของคุณมีแมลงน้อยลงด้วย โดยส่วนใหญ่จะชอบแดดรำไร ไม่ชอบแดดจัด
จุดที่น่าสนใจของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงก็คือ วิธีการล่าเหยื่อของมันซึ่งเป็นกับดักแบบธรรมดาที่สุดคือ กับดักแบบอ้อม (passive pitfall) “พืชชนิดนี้จะขึ้นในดินที่ไม่สมบูรณ์หรือเลื้อยเกาะติดกับต้นไม้ชนิดอื่นๆ และเพื่อเสริมกับอาหารที่ต้นที่ได้รับจากราก มันจึงดักจับและย่อยสลายบรรดาสัตว์ต่างๆ ด้วยของเหลวที่อยู่ในหม้อ โดยหม้อนั้นก็คือ แผ่นใบที่แปลงสภาพห่อตัวเป็นรูปทรงที่หลากหลาย” หลายๆ คนเข้าใจว่า เมื่อหลอกแมลงมาเดินหาอาหารบนปากหม้อแล้ว ฝาหม้อจะปิด เพื่องับกินแมลง แต่จริงๆ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ฝาหม้อเป็นเพียงร่มไว้กันไม่ให้น้ำฝนตกลงไปในหม้อในปริมาณมากเกินไป (หากอยากจะชมแบบงับๆ รอพบกันในสัปดาห์หน้าเรื่อง กาบหอยแครง ครับ)
ตัวหม้อและปากหม้อจะมีสีสันสวยงาม มีน้ำหวานที่ผลิตจากขอบด้านในของปากหม้อเพื่อล่อแมลง เมื่อแมลงหลวมตัวเข้ามาใกล้ เดินไปเดินมาก็สามารถพลัดตกลงไปได้ เมื่อตกลงไปในตัวหม้อแล้ว จะมีน้ำหรือของเหลวที่หม้อจะผลิตออกมา ซึ่งมีเอนไซม์น้ำย่อยทำหน้าที่ในการย่อยสลายเหยื่อที่ตกลงไป จุดสำคัญในการดักแมลงอีกจุดหนึ่งคือ ผิวด้านในหม้อส่วนบนๆ ที่มีลักษณะมันและเป็นไข ซึ่งยากต่อการยึดเกาะ และเป็นตัวปิดกั้นทางออกจากหม้อด้วย ปากหม้อที่เปียกชุ่มจะเป็นปัจจัยที่ทำให้แมลงพลัดตกลงไปง่ายกว่าปากหม้อที่แห้ง
ตามที่ได้รับคำแนะนำจากร้านคือ ควรรดน้ำเจ้าหม้อข้าวหม้อแกงลิงอย่างน้อยวันละครั้ง ถ้าให้ดีควรรดน้ำตอนเช้า มิฉะนั้นหยดน้ำจะทำให้ดิน, ใบ, และหม้อ อาจเป็นเชื้อราได้ และ ควรหมั่นตรวจดูไม่ให้น้ำในหม้อแห้ง เพราะหากเป็นเช่นนั้น หม้อใบนั้นจะตายในไม่กี่วัน แต่ก็อย่าเติมจนมากเกินไปนะครับ มิฉะนั้นใบอาจพยุงหม้อไม่อยู่และขาดได้ หรือเอนไซม์จะถูกเจือจางจนทำหน้าที่ในการย่อยสลายได้ไม่สมบูรณ์
ใครเริ่มสนใจพืชกินแมลงชนิดนี้อาจค่อยๆ หาซื้อมาเลี้ยงดูทีละต้นก่อนก็ได้ครับ
blackhappy
03/10/2011
ที่มา: สารคดีวิทยาศาตร์ เรื่อง เจาะกลยุทธ์ล่าเหยื่อของหม้อข้าวหม้อแกงลิง โดย สันติพงษ์ ปิตตุภักดิ์