จากความจริงที่ว่า หลังจากต้นกล้วยออกเครือแล้ว พวกมันจะยืนต้นแห้งตายไปตามธรรมชาติ การนำกล้วยและใบกล้วยที่ตายแล้วและถูกทิ้งให้ไร้ประโยชน์มาทำเป็นกระดาษจึงเป็นการตอบโจทย์เป้าหมายของสตูดิโอแห่งนี้ ที่มุ่งมั่นจะผลิตผลงานจากธรรมชาติโดยไม่ทำลายทรัพยากรเพิ่มเติม แต่รู้จักมองถึงคุณค่าในสิ่งที่มีอยู่เดิมมากกว่า
สเริงรงค์ วงษ์สวรรค์ (จ่อย) บัณฑิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และ พาณุ งากุญชร (ต้อม) ศิลปบัณฑิตจากคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คือเพื่อนต่างคณะที่มีมุมมองการทำงานและวิถีชีวิตตรงกัน สเริงรงค์และพาณุชอบชีวิตที่เชียงใหม่ และต้องการทำงานด้านการออกแบบ/ศิลปะร่วมกับคนในท้องที่ โดยพึ่งพาความรู้และความเชี่ยวชาญของชุมชมนั้นเอง หลังจากเรียนจบ สเริงรงค์และพาณุแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตคนละแบบอยู่พักหนึ่ง แต่ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และนำความฝันที่เคยคุยกันไว้มาปัดฝุ่นทำให้เป็นจริงขึ้นมา
ต้นกล้วย + วิธีทำกระดาษสา = กระดาษใยกล้วย
ทั้งคู่ได้เรียนรู้ถึงอุปกรณ์และวิธีทำกระดาษจากแหล่งทำกระดาษสาเล็กๆ ในหมู่บ้านต้นเตา พร้อมกับหาข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือและอินเทอร์เน็ต จากนั้นก็เริ่มจัดซื้ออุปกรณ์ สั่งทำเครื่องปั่นใย และลงมือวิจัยความเป็นไปได้ในการทำกระดาษจากใยกล้วยด้วยตนเอง การวิจัยตัววัสดุใช้เวลาอยู่ราว 1 ปี เพื่อทดลองคุณสมบัติให้คงที่ และค้นหาเอกลักษณ์ในตัวกระดาษ หลังจากนั้นก็ใช้เวลาอีก 6 เดือนทดลองออกแบบกระดาษให้เป็นผลิตภัณฑ์อื่น อาทิ สมุดโน้ตกระดาษใยกล้วย
ส่วนอนาคตของ Re-Leaf Studio นั้น ทั้งคู่กลับไม่ได้มุ่งเน้นที่จะขยายบริษัทหรือโรงงานให้ใหญ่โต แต่ต้องการคงไว้ซึ่งความเป็นสตูดิโอขนาดย่อม ที่มีคนทำงานไม่เกิน 20 คน เป็นส่วนผสมของคนรุ่นใหม่และช่างฝีมือในชุมชน รวมทั้งอยากเปิดโอกาสให้คนพิการได้เข้ามาร่วมงานด้วย เป็นอุดมคติของการทำงานที่มีจิตสำนึก เคารพธรรมชาติ เคารพท้องถิ่น และเคารพคน ในแบบที่เคยเป็นมาแต่ดั้งเดิม
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tcdcconnect.com/