สาหร่าย มาริโมะ (Moss ball) เป็นพืชน้ำที่มีความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Marimo” และเป็นพืชที่มีคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อม บ้างก็เลี้ยงเหมือนสัตว์เลี้ยง บ้างก็ใช้ตกแต่งภายในได้
ในเวลานี้คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อของ มาริโมะ (Marimo หรือ Moss ball) ที่กลายเป็นนิยม นำมาเลี้ยง มาดูเล่น บ้างก็เชื่อว่านำโชคด้านความรัก สุขภาพ มาดูที่มาและวิธีเลี้ยงมาริโมะ (Marimo หรือ Moss ball) ที่ถูกต้องกันดีกว่า
มาริโมะ (Marimo) まりも เป็นสาหร่ายน้ำจืดสีเขียวที่มีรูปลักษณ์แตกต่างจากสาหร่ายน้ำจืดชนิดเดียวกันที่มีอยู่ในทะเลสาบแห่งอื่นของโลก ที่คนส่วนมากรุ้จักจากการเป็นของฝากขึ้นชื่อจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น “มาริ” นั้นมีความหมายว่า “บอล” ส่วน “โมะ”มีความหมายว่า “พืชจำพวกสาหร่ายหรือมอสส์” ส่วนชื่อในภาษอังกฤษ คือ “Moss ball”
มาริโมะมีหลายรูปทรงแต่ที่ทะเลสาบ Akan เกาะฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น จะพบมาริโมะทรงกลม เนื่องจากทะเลสาป Akan ‘s diamond shape สภาพภูมิประเทศเอื้ออำนวยต่อกระแสน้ำที่พอดีกับการดำรงชีวิตของมาริโมะ โดยมาริโมะนั้นจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่สุดประมาณ 25 เซนติเมตร
มาริโมะเป็นพืชน้ำชนิดหนึ่ง จึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการสังเคราะห์แสง การเลี้ยงมาริโมะนั้นเลี้ยงง่ายแต่เติบโตยาก เชื่อกันว่า มาริโมะ สามารถเติบโตได้เพียงปีละ1เซนติเมตรเท่านั้น
วิธีการเลี้ยงดูที่ถูกต้องสำหรับมาริโมะ Moss ball
– น้ำไม่ต้องเย็นก็ได้ แต่ถ้าเย็นจะโตเร็วหน่อย อุณหภูมิของน้ำไม่ควรเกิน 30 องศาเซลเซียส
– น้ำที่เลี้ยงต้องมีกระแสหมุนเวียนไม่หยุดนิ่ง เพื่อคงความให้เป็นก้อนกลม
– เลี้ยงในตู้หลายๆ ลูกตอนเปิดแสงมันจะลอยขึ้นผิวน้ำ เป็นเรื่องปกติเพราะเนื้อข้างในมันคายออกซิเจนออกมา ปิดไฟมันก็จมลงไปใหม่
– ห้ามลงยากำจัดตะไคร่ โดยเฉพาะ flourish excel เพราะมันก็คือตะไคร่ – ห้ามเลี้ยงในตู้รวมกับกุ้ง เพราะกุ้งจะดึงทำให้ขนมันหลุดหาย
– การขยายพันธุ์ ต้องปล่อยให้มันสร้างก้อนเล็กๆขึ้นมาเอง แล้วหลุดออกมา อย่าไปแบ่งครึ่ง มีสิทธิตายสูง หากแบ่งไปแล้วต้องปั้นมันให้กลับมากลมเหมือนเดิม ไม่ต้องไปเร่งมัน ปล่อยมันขยายของมันเองดีกว่า
– แสง ชอบแสงน้อยๆ แสงมากไม่ดี แสงอาทิตย์อาจตาย เพราะปกติมันอยู่น้ำลึกๆเพราะต้องการแสงน้อย
แต่ก็ต้องการปุ๋ย คาร์บอน เหมือนไม้น้ำทั่วๆไป ห้ามใช้คาร์บอนน้ำ
– มาริโมะก็ไม่สบายได้ ดูจากขนมันจะเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล เพราะผิดสมดุลเกลือแร่ และสมดุลแบคทีเรีย แก้โดยเอามือถูส่วนที่เปลี่ยนสีออกเบาๆ แล้วเติมเกลือทะเลลงไป 5% น้ำกระด้าง และถ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทั้งก้อน คือ มาริโมะตายแล้ว (ต้องทำใจ)
มาริโมะสามารถหาซื้อได้ง่ายมากในฮอกไกโด เพราะเป็นของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า มาริโมะที่นำมาขายในขวดแก้วนั้นไม่ใช่มาริโมะของแท้ที่ไปเอามาจากทะเลสาป หากแต่เป็นมาริโมะที่สังเคราะห์จากมนุษย์ เนื่องจากเหตุผลหลายๆสาเหตุที่ทำให้จำนวนมาริโมะลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกคำสั่งห้ามนำมาริโมะขึ้นมาจากทะเลสาบ Akan อีก
source : http://www.marimo-web.org , http://item.rakuten.co.jp , http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=127760.0 , http://aqua.c1ub.net/forum/lite.php?topic=202314.0