40 ปีแห่งการเดินหน้าเปลี่ยนแปลง
อาคารสำนักงานแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนมิลเลอร์ในแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ อาคารทั้งหลังถูกคลุมด้วยแผงโซล่าเซลล์ทั้งหมด เพื่อชดเชยการใช้พลังงานของบริษัทที่ตั้งอยู่ภายในอาคาร ตึกหลังนี้สร้างขึ้นในปี 1962 ซึ่งเดิมทียังเป็นแค่ตึกกระเบื้องโมเสคธรรมดา ซึ่งกระเบื้องเหล่านี้ก็กลายเป็นปัญหาของอาคาร เนื่องจากมีการล่วงหล่นลงจากอาคาร ตลอดระยะเวลานานถึง 40 ปีเลยครับ ก่อนที่จะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ของอาคาร ในระหว่างรอการดำเนินการปรับปรุง เจ้าของอาคารหลังนี้ก็ได้ปรึกษากับบริษัทแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์รอบอาคาร รวม 575.5 กิโลวัตต์
โครงการพลังงานสีเขียวที่ดีที่สุดในปี 2005
ตึก CIS นี้ถูกปรับปรุงเสร็จเมื่อปี 2004 ซึงก็กลายเป็นฐานติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์แนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน โครงการปรับปรุงนี้ใช้งบมากถึง 9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพียงพอต่อคน 7,000 ชีวิต ที่ทำงานภายในอาคารหลังนี้ ชั้นบนสุดของคารคารยังถูกติดตั้งกังหันลม 24 กังหัน ซึ่งคิดเป็น 10% ของพลังงานทั้งหมด ด้วยความที่เป็นตึกพลังแสงอาทิตย์แห่งเดียวในโลก ตึก CIS ได้รับคัดเลือกจาก DTI ให้เป็นหนึงใน 10 โครงการพลังงานสีเขียวที่ดีที่สุดในปี 2005 ซึ่งก็พลังจากอาคารปรับปรุเสร็จเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นเอง
ปรุงปรับจากอาคารเก่านามว่า Millbank Tower
เมื่อก่อนอาคารหลังนี้เป็นอาคารที่สูงที่สุดในอังกฤษ แต่ในปัจจุบันถูกแซงไปแล้ว โดยอาคารนี้มีช่ือว่า Millbank Tower ปัญหาหลักของการบริหารที่เป็นรูปธรรมเกิดขึ้นเพียงแค่ 6 เดือนหลังอาคารสร้างเสร็จเท่านั้น เนื่องจากเกิดขึ้นจากความผิดพลาดด้านวิศกรรมการขยายตัวในคอนกรีต ที่เป็นสาเหตุการของการล่วงหล่นของกระเบื้องโมเสต ซึ่งก็ทำให้มีปัญหานี้มาต่อเนื่องจนได้มีการปรับปรุงติดตั้งแผงโซลาเซลล์ในปี 2004
กลายเป็นอาคารใหม่ ที่โลกต้องจารึก
อาคารนี้ไม่ได้สูงสร้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุน แต่มันถูกสร้างเพื่อช่วยลดมลพิษที่เกิดจากการใช้พลังงานฟอสซิล ในขณะที่แผงโซล่าเซล์ราคาถูกลงทั่วโลก จึงมีแนวโน้มที่จะได้เห็นตึกแบบนี้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถเก็บพลังงานได้มากมายเช่นเดียวกับที่ต้นไม้กำลังทำ ลองเปรียบเทียบต้นไม้สูงๆ ในป่าดูสิครับมันจะมีการเก็บรวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์ไว้มากมายกับโลกที่มีตึกปกคลุมด้วยแผงโซล่าเซลล์ คงจะเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากเลยทีเดียวครับ